Page 100 - kpiebook62008
P. 100
๖๙
๑๒๖. เงื่อนไขการตราพระราชกำหนดที่เกี่ยวกับภาษีอากรหรือเงินตรา นอกจากการตราพระราชกำหนดกรณี
ทั่วไปแล้ว รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ได้กำหนดวิธีการตรากฎหมายภาษีในกรณีพิเศษ
ไว้พระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีอากรหรือเงินตรา โดยที่บทบัญญัติดังกล่าวกำหนดไว้ว่า “ในกรณีที่มีความ
จำเป็นต้องมีกฎหมายเกี่ยวด้วยภาษีอากรหรือเงินตราซึ่งจะต้องได้รับการพิจารณาโดยด่วนและลับเพื่อรักษา
ประโยชน์ของแผ่นดิน พระมหากษัตริย์จะทรงตราพระราชกำหนดให้ใช้บังคับดังเช่นพระราชบัญญัติก็ได้
ให้นำความในมาตรา ๑๗๒ วรรคสาม วรรคสี่ วรรคห้า วรรคหก และวรรคเจ็ด มาใช้บังคับแก่พระราช
กำหนดที่ได้ตราขึ้นตามวรรคหนึ่งโดยอนุโลม แต่ถ้าเป็นการตราขึ้นในระหว่างสมัยประชุม จะต้องนำเสนอต่อสภา
ผู้แทนราษฎรภายในสามวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา”
การให้อำนาจแก่ฝ่ายบริหารในลักษณะดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับภาษี
อากรในบางกรณีจำเป็นต้องการการแก้ไขอย่างทันท่วงที หากปล่อยให้เนินช้าไปอาจก่อให้เปิดผลเสียต่อประเทศได้
ทั้งนี้ การใช้อำนาจของฝ่ายบริหารในลักษณะนี้เป็นเพียงข้อยกเว้นของหลักความชอบด้วยกฎหมายภาษี จึง
จำเป็นต้องใช้เฉพาะในกรณีที่รัฐธรรมนูญกำหนดเท่านั้น กล่าวคือ กรณีด่วนและลับเพื่อรักษาประโยชน์ของแผ่นดิน
ทั้งยังต้องนำพระราชกำหนดดังกล่าวมานำเสนอต่อฝ่ายนิติบัญญัติในภายหลังดังปรากฏตามความในมาตรา ๑๗๔
วรรคสองของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ทั้งนี้ การใช้อำนาจตามมาตรานี้ได้เกิดมีขึ้นแล้วเกี่ยวกับการกำหนดประเภท
เงินได้เกี่ยวกับเงินดิจิทัลตามพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๑
๑๒๗. ความแตกต่างของเงื่อนไขการตราพระราชกำหนดตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๖๐ กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบ
เงื่อนไขการตราพระราชกำหนดตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๕๐ แล้วจะพบว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ได้กำหนดประเภทของพระราช
กำหนดไว้สองอันได้แก่ พระราชกำหนดกรณีทั่วไปตามมาตรา ๑๘๔ แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ และพระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีอากรหรือเงินตราตรามมาตรา ๑๘๖ แห่งรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ การตราพระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีจึงสามารถกระทำได้สองช่องทาง
กล่าวคือ การตราพระราชกำหนดภาษีในกรณีเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความ
ปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ และคณะรัฐมนตรี
เห็นว่าเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ดังปรากฏตามมาตรา ๑๘๔ แห่งรัฐธรรมนูญ