Page 101 - kpiebook62008
P. 101
๗๐
แห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๕๐ กรณีหนึ่ง และการตราพระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีซึ่งจะต้องได้รับการ
พิจารณาโดยด่วนและลับเพื่อรักษาประโยชน์ของแผ่นดินตามมาตรา ๑๘๖ แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
๑๒๔
พุทธศักราช ๒๕๕๐ อีกกรณีหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การตราพระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีตามมาตรา ๑๘๖ แห่ง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ต้องกระทำภายในสมัยประชุมสภาเท่านั้นซึ่งเป็นความ
แตกต่างระหว่างการตราพระราชกำหนดทั้งสองประเภท ทั้งนี้ รัฐธรรมฉบับปัจจุบันมีการตัดเงื่อนไขดังกล่าวออกซึ่ง
ส่งผลให้การตราพระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีซึ่งจะต้องได้รับการพิจารณาโดยด่วนและลับเพื่อรักษาประโยชน์ของ
แผ่นดินนั้นอาจกระทำได้แม้อยู่นอกสมัยประชุมสภาซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
ไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่ประสงค์ให้ขจัดข้อจำกัดในการตราพระราชกำหนดภาษีอากรที่ต้องตราเฉพาะในเวลา
สมัยประชุมสภาออกไป ด้วยเหตุดังกล่าวจึงเกิดปัญหาขึ้นว่า การตราพระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีอากรใช้ช่องทาง
เหมือนพระราชกำหนดทั่วไปตามมาตรา ๑๗๒ แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ได้อยู่
หรือจำเป็นต้องใช้ช่องทางเฉพาะที่กำหนดให้กับการตราพระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีอากรหรือเงินตามตามมาตรา
๑๗๔ แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในฐานะเป็นบทกฎหมายเฉพาะเท่านั้น
๓.๔.๓ การตรากฎหมายภาษีภายใต้หลักความเสมอภาคทางภาษี
๑๒๘. การรับรองหลักความเสมอภาคในรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
ได้บัญญัติรับรองหลักความเสมอภาคไว้ในมาตรา ๒๗ โดยมีรายละเอียดดังนี้
“มาตรา ๒๗ บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
เท่าเทียมกัน
ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา
เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทาง
๑๒๔ มาตรา ๑๘๖ ในระหว่างสมัยประชุม ถ้ามีความจำเป็นต้องมีกฎหมายเกี่ยวด้วยภาษีอากรหรือเงินตราซึ่งจะต้องได้รับการ
พิจารณาโดยด่วนและลับเพื่อรักษาประโยชน์ของแผ่นดิน พระมหากษัตริย์จะทรงตราพระราชกำหนดให้ใช้บังคับดังเช่น
พระราชบัญญัติก็ได้
พระราชกำหนดที่ได้ตราขึ้นตามวรรคหนึ่ง จะต้องนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรภายในสามวันนับแต่วันถัดจากวัน
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และให้นำบทบัญญัติมาตรา ๑๘๔ มาใช้บังคับโดยอนุโลม