Page 94 - kpiebook62008
P. 94
๖๓
ขอบเขตและการจำกัดสิทธิในทรัพย์สินเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ในขณะที่วรรคที่สามถึงเจ็ดได้กำหนด
หลักเกณฑ์และวิธีการเฉพาะของการเวนคืนทรัพย์สินซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิในทรัพย์สินประการหนึ่ง เมื่อพิจารณา
บทบัญญัติดังกล่าวแล้วจะพบว่า มาตรา ๓๐ ของรัฐธรรมนูญปัจจุบันมิได้บัญญัติถึงความหมายของสิทธิใน
ทรัพย์สินไว้เป็นการเฉพาะ จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงกฎหมายระดับพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง
๑๑๕. สิทธิในทรัพย์สินตามประมวลแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายระดับพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับสิทธิใน
ทรัพย์สินมากที่สุดคือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งเป็นรากฐานของกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน ในประเด็น
เกี่ยวกับความหมายนั้น ความหมายของคำว่า “ทรัพย์สิน” ปรากฏอยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่ง
บัญญัติไว้ว่า “ทรัพย์สิน หมายความรวมทั้งทรัพย์และวัตถุไม่มีรูปร่าง ซึ่งอาจมีราคาและอาจถือเอาได้” สิทธิใน
ทรัพย์สินจึงรวมทั้งสิทธิในทรัพย์และวัตถุไม่มีรูปร่างซึ่งอาจมีราคาและอาจถือเอาได้ นอกจากในแง่ของความหมาย
แล้วประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ยังได้กำหนดเกี่ยวกับการก่อตั้งทรัพยสิทธิไว้ว่า “ทรัพยสิทธิทั้งหลายนั้น
๑๑๖
ท่านว่าจะก่อตั้งขึ้นได้แต่ด้วยอาศัยอำนาจในประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น” ดังนั้นทรัพยสิทธิจึงอาจ
ก่อตั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องก็ได้ เมื่อพิจารณาบรรพ ๔ แห่งประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้วจะพบว่าทรัพยสิทธินั้นมีหลายประการด้วยกัน แต่ทรัพย์สิทธิที่สำคัญที่สุดคือ
กรรมสิทธิ์เนื่องจากเป็นสิทธิที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของ กฎหมายจึงมุ่งคุ้มครองทรัพยสิทธิประเภทนี้สูงที่สุด การ
คุ้มครองกรรมสิทธิ์ปรากฏในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไว้อย่างเห็นได้ชัดซึ่งบัญญัติไว้ว่า “ภายในบังคับ
แห่งกฎหมาย เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิใช้สอยและจำหน่ายทรัพย์สินของตนและได้ซึ่งดอกผลแห่งทรัพย์สินนั้น กับ
ทั้งมีสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ และมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอด
เข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย” ๑๑๗
๓.๔.๒.๒ การตรากฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิของผู้เสียภาษีโดยฝ่ายนิติบัญญัติ: การตรา
พระราชบัญญัติเพื่อจำกัดสิทธิของผู้เสียภาษี
๑๑๖. การตราพระราชบัญญัติภาษีในระบบกฎหมายไทยจำต้องพิจารณาหลักเกณฑ์ที่ปรากฏตามรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทยเป็นประการแรกโดยอาศัยหลักเกณฑ์การตรากฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิในทรัพย์สินมาใช้
๑๑๖ มาตรา ๑๒๙๘ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
๑๑๗ มาตรา ๑๓๓๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์