Page 46 - kpiebook62008
P. 46
๑๕
๒.๒.๒.๑ ความหมายของหลักความเสมอภาคทางภาษี
๓๐. ความหมายของหลักความเสมอภาคทางภาษี หลักความเสมอภาคทางภาษีนี้มีลักษณะเช่นเดียวกับหลัก
ความเสมอภาคทางกฎหมาย กล่าวคือ บทบัญญัติกฎหมายภาษีต้องมีลักษณะเป็นการทั่วไป ไม่เลือกปฏิบัติอย่างไม่
เป็นธรรมด้วยเหตุแห่งความแตกต่างของแต่ละบุคคล แต่อย่างไรก็ดี การกำหนดบทบัญญัติกฎหมายภาษีอากร
สามารถนั้นสามารถกำหนดให้แตกต่างกันตามแต่ละบุคคลได้สำหรับกรณีที่มีสาระสำคัญหรือพฤติการณ์ที่แตกต่าง
๓๐
กัน อาทิ ฐานะทางเศรษฐกิจ สถานภาพของครอบครัว หรือสภาวะทางเศรษฐกิจ เป็นต้น จึงเห็นได้ว่าความเสมอ
ภาคทางภาษีอากรไม่จำเป็นต้องปรากฏในรูปแบบของการชำระภาษีในจำนวนที่เท่ากันหรือใช้วิธีการเก็บภาษีแบบ
เดียวกันเท่านั้น ดังนั้น การที่กฎหมายภาษีอากรกำหนดให้บุคคลที่อยู่ในพฤติการณ์เดียวกัน หรือมีสาระสำคัญ
อย่างเดียวกันได้รับการปฏิบัติที่เหมือนกัน และบุคคลที่อยู่ในพฤติการณ์ที่แตกต่างกันได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกัน
อย่างเป็นธรรมย่อมถือเป็นความเสมอภาคทางภาษีอากรแล้ว หลักความเสมอภาคทางภาษีจึงเป็นหนึ่งในวิธีการ
สร้างสมดุลระหว่างหน้าที่และสิทธิของผู้เสียภาษีเนื่องจากการกำหนดให้การเสียภาษีเป็นหนึ่งในหน้าที่ของปวงชน
ชาวไทยมิได้หมายความว่าปวงชนชาวไทยจำต้องเสียภาษีอากรเท่ากันแต่จำต้องเสียภาษีอากรตามความสามารถ
ของตนเอง
๒.๒.๒.๒ ตัวอย่างการบังคับใช้หลักความเสมอภาคทางภาษี
๓๑. ในอดีตประเทศไทยเคยมีบทบัญญัติกฎหมายภาษีอากรที่มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติอันเป็นการขัดต่อ
รัฐธรรมนูญในขณะนั้นที่มีบทบัญญัติรับรองหลักความเสมอภาคเช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน บทบัญญัติ
ดังกล่าว คือ ประมวลรัษฎากร มาตรา ๕๗ ตรี และมาตรา ๕๗ เบญจ ซึ่งต่อมาได้ถูกยกเลิกไปอันเป็นผลมาจากคำ
วินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๑๗/๒๕๕๕ ที่วินิจฉัยให้บทบัญญัติประมวลรัษฎากร มาตรา ๕๗ ตรี และมาตรา ๕๗
เบญจ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ คำวินิจฉัยดังกล่าวได้แยกสารัตถะออกเป็นสองประเด็นอันได้แก่ ปัญหา
ความเสมอภาคระหว่างในการเสียภาษีหญิงโสดกับหญิงที่ได้จดทะเบียนสมรส และปัญหาความเสมอภาคในการยื่น
รายการเสียภาษีของหญิงที่มีสามีซึ่งมีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๑) แห่งประมวลรัษฎากรกับหญิงที่มีสามี
ซึ่งมีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๒) - (๘) แห่งประมวลรัษฎากร
๓๐ เรื่องเดียวกัน, หน้า ๙๘.