Page 201 - kpiebook62008
P. 201
๑๗๐
จ่ายเงินภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในการพิจารณางบประมาณในระบบงบประมาณสองขา รัฐสภาสามารถ
พิจารณาถึงนโยบายหรือมาตรการการใช้เงินภาษีและความสามารถในการหารายได้ของรัฐบาลได้อย่างเหมาะสม
ซึ่งจะเป็นการควบคุมการบริหารการคลังและการจัดสรรงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสมดุล
ระหว่างรายรับและรายจ่ายมากยิ่งขึ้น โดยที่จะเป็นประโยชน์ในการกำหนดกรอบงบประมาณและพิจารณาจัดสรร
งบประมาณหรือเสนอให้ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากรต่อไป นอกจากนี้ ในระบบงบประมาณสองขา รัฐสภา
ยังสามารถทบทวนกฎหมายเพื่อจัดเก็บภาษีผ่านกฎหมายงบประมาณได้ในทุกปีงบประมาณ อำนาจในการทบทวน
ดังกล่าวย่อมทำให้การจำกัดสิทธิของผู้เสียภาษีได้รับการพิจารณาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ผู้วิจัยจึง
เห็นว่าการสร้างสมดุลระหว่างงบประมาณรายรับและรายจ่ายและการทบทวนกฎหมายเพื่อจัดเก็บภาษีในระบบ
งบประมาณสองขาย่อมทำให้สิทธิของผู้เสียภาษีถูกจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพและเงินภาษีที่จัดเก็บจะกลายเป็น
รายจ่ายที่สามารถสร้างประโยชน์มหาชนได้อย่างคุ้มค่า
๓๕๒. ข้อจำกัดของระบบงบประมาณสองขา แม้ว่าการใช้ระบบงบประมาณสองขาก่อให้เกิดข้อดีต่าง ๆ ต่อการ
ควบคุมนโยบายทางภาษีและการใช้เงินภาษีได้หลายประการ แต่ในระบบงบประมาณสองขาก็มีข้อจำกัดเช่นกัน
กล่าวคือ พระราชบัญญัติภาษีที่มีอยู่ เช่น ประมวลรัษฎากร พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต จะไม่ใช่กฎหมายที่ให้
อำนาจในการจัดเก็บภาษีเป็นรายปีอีกต่อไปเป็นเพียงกฎหมายที่กำหนดโครงสร้างทางภาษีเท่านั้น การจัดเก็บภาษี
จะอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี ในการจัดเก็บภาษีซึ่งหากรัฐสภามีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
อัตราภาษีหรือวิธีการจัดเก็บภาษีในพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปีย่อมส่งผลให้เป็นการแก้ไขพระราชบัญญัติ
ทางภาษีไปด้วยในตัว ดังนั้น รัฐบาลและผู้เสียภาษีจึงต้องพิจารณาทั้งพระราชบัญญัติภาษีและพระราชบัญญัติ
งบประมาณประจำปีประกอบกันในการจัดเก็บภาษีและในการเสียภาษีซึ่งจะทำให้เกิดความซับซ้อนในระบบภาษี
เพิ่มขึ้น ผู้วิจัยจึงเห็นว่าระบบงบประมาณสองขาเป็นระบบที่ให้ความสำคัญกับการควบคุมตรวจสอบการจัดเก็บ
ภาษีและการใช้เงินภาษีโดยรัฐสภาซึ่งทำให้สิทธิของผู้เสียภาษีได้รับการคุ้มครองมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็
๒๔๖
ก่อให้เกิดความซับซ้อนในการจัดเก็บภาษีอันเป็นข้อจำกัดประการหนึ่งของระบบงบประมาณสองขา
๒๔๖ ข้อจำกัดดังกล่าวได้รับคำแนะนำจากรองศาสตราจารย์ ดร.สุปรียา แก้วละเอียดในงานสัมมนานำเสนอผลการศึกษา
โครงการวิจัยชิ้นนี้