Page 189 - kpiebook62008
P. 189

๑๕๘

               ทางปกครอง หากส่วนในที่ประมวลรัษฎากรบัญญัติไว้มีมาตรฐานสูงกว่าแล้วย่อมเป็นไปตามที่ประมวลรัษฎากร

                                                                                                          ๒๓๐
               กำหนด ส่วนในประเด็นขั้นตอนและระยะเวลาอุทธรณ์หรือโต้แย้งให้เป็นไปตามที่ประมวลรัษฎากรกำหนด
               อย่างไรก็ตาม การอุทธรณ์ตามประมวลรัษฎากรเป็นการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จึงต้องด้วย

               มาตรา ๔๗ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ ซึ่งกำหนดให้ขอบเขตการพิจารณาของ

               คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ให้เป็นไปตามประมวลรัษฎากร ส่วนกระบวนการพิจารณาเป็นไปหมวด ๒ แห่ง

               พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อประมวลรัษฎากร




               ๓๓๒.  ปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์ตามประมวลรัษฎากร ด้วยเหตุที่ประมวลรัษฎากรมิได้

               กำหนดระยะเวลาการพิจารณาอุทธรณ์ไว้แต่การอุทธรณ์ประเมินภาษีเป็นการอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองต่อ
               คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ อยู่ภายใต้มาตรา ๔๗ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.

               ๒๕๓๙ กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จึงต้องพิจารณาทั้งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติ

               ราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ และประมวลรัษฎากร กล่าวคือ ต้องบังคับตามหมวด ๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธี

               ปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อประมวลรัษฎากร ในประเด็นของระยะเวลาการ

               พิจารณาอุทธรณ์นั้น เมื่อประมวลรัษฎากรไม่ได้กำหนดระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์ไว้ จึงเกิดปัญหาขึ้นว่าต้องบังคับ

               ใช้ตามมาตรา ๔๕ วรรคแรกและวรรคสองแห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้

               หรือไม่ เมื่อพิจารณาระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ ตามประมวลรัษฎากร
               พ.ศ. ๒๕๔๖ กรมสรรพากรมิได้บังคับให้มีระยะเวลาการพิจารณาอุทธรณ์แต่อย่างใด




               ๓๓๓.  ระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์ตามประมวลรัษฎากรเทียบกับกฎหมายภาษีอื่น แม้ประมวลรัษฎากรจะเปิด

               โอกาสให้ผู้เสียภาษีที่ไม่เห็นด้วยกับการประเมินภาษีสามารถโต้แย้งคัดค้านต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้

               แต่ประมวลรัษฎากรกลับมิได้กำหนดระยะเวลาการวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไว้ จึงทำให้

               ผู้เสียภาษีไม่อาจทราบได้แน่ชัดว่าเรื่องของตนจะเสร็จสิ้นเมื่อใด ทั้งยังไม่อาจดำเนินเรื่องต่อไปยังศาลภาษีอากรได้

               เนื่องจากยังไม่มีผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ เมื่อพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับระยะเวลา

               พิจารณาอุทธรณ์ในกฎหมายภาษีฉบับอื่นจะพบว่ามีความแตกต่างจากประมวลรัษฎากรค่อนข้างมากดัง
                                                                                                          ๒๓๑
               ตัวอย่างเช่น พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ.๒๕๑๐ มีการกำหนดระยะเวลาการพิจารณาอุทธรณ์ไว้ที่ ๖๐ วัน


               ๒๓๐  มาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙

               ๒๓๑  มาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ.๒๕๑๐
   184   185   186   187   188   189   190   191   192   193   194