Page 187 - kpiebook62008
P. 187

๑๕๖

                              ๕.๓.๒.๑ ปัญหาความซับซ้อนและความไม่ชัดเจนของบทบัญญัติคุ้มครองสิทธิของผู้เสียภาษี


                       ในกระบวนการจัดเก็บภาษี ประมวลรัษฎากรได้กำหนดบทบัญญัติคุ้มครองสิทธิของผู้เสียภาษีไว้อยู่กับ

               บทบัญญัติอื่น และในบางกรณีประมวลรัษฎากรก็มิได้กำหนดสิทธิของผู้เสียภาษีไว้จนทำให้ต้องบัญญัติ
               พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ มาใช้บังคับ ประเด็นดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความไม่

               ซับซ้อนและความไม่ชัดเจนของบทบัญญัติคุ้มครองสิทธิของผู้เสียภาษี ทั้งนี้ บทบัญญัติในเรื่องดังกล่าวปรากฏทั้งใน

               กระบวนการประเมินภาษี (๑) และกระบวนการโต้แย้งคัดค้านการประเมินภาษี (๒)





                                     (๑) บทบัญญัติคุ้มครองสิทธิของผู้เสียภาษีในระหว่างประเมินภาษี

               ๓๒๘.  ความซับซ้อนและความไม่ชัดเจนของบทบัญญัติคุ้มครองสิทธิของผู้เสียภาษีในระหว่างประเมินภาษี

               แม้ประมวลรัษฎากรเป็นกฎหมายที่สำคัญยิ่งในการจัดเก็บภาษี แต่ประมวลรัษฎากรมิได้มีการบัญญัติเรื่องสิทธิของ

               ผู้เสียภาษีไว้เป็นการเฉพาะในหลายประเด็น จึงจำเป็นต้องอาศัยพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง

               พ.ศ. ๒๕๓๙ มาใช้บังคับ อาทิ การประกันความไม่มีส่วนได้เสียของเจ้าพนักงานประเมินต้องอาศัยมาตรา ๑๓ และ
               ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ การแสดงเหตุผลในคำสั่งประเมินภาษีต้อง

               อาศัยมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ นอกจากนี้ บทบัญญัติใน

               ประมวลรัษฏากรให้ความสำคัญกับอำนาจของเจ้าพนักงานประเมินมากกว่าสิทธิของผู้เสียภาษี จนทำให้เกิดความ

               ไม่ชัดเจนของสิทธิของผู้เสียภาษีในกรณีดังกล่าวดังตัวอย่างเช่น มาตรา ๑๙ แห่งประมวลรัษฎากร “กรณีที่เจ้า

               พนักงานประเมินมีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้ใดแสดงรายการตามแบบที่ยื่นไม่ถูกต้องตามความจริงหรือไม่บริบูรณ์ให้เจ้า

               พนักงานประเมินมีอำนาจออกหมายเรียกผู้ยื่นรายการนั้นมาไต่สวน และออกหมายเรียกพยานกับสั่งให้ผู้ยื่น

               รายการหรือพยานนั้นนำบัญชี เอกสาร หรือหลักฐานอื่นอันควรแก่เรื่องมาแสดงได้ แต่ต้องให้เวลาล่วงหน้าไม่น้อย

               กว่าเจ็ดวันนับแต่วันส่งหมาย...” บทบัญญัติข้างต้นพึงให้สิทธิแก่ผู้เสียภาษีในการแสดงพยานหลักฐานต่อเจ้า

               พนักงานประเมิน แต่บทบัญญัติกลับใช้คำว่า “สั่งให้” อันแสดงให้เห็นถึงอำนาจของเจ้าพนักงานประเมินที่อยู่เหนือ
               สิทธิของผู้เสียภาษี





               ๓๒๙.  มาตรฐานทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นเพียง
               มาตรฐานขั้นต่ำซึ่งใช้บังคับกับกรณีที่มิได้มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะเท่านั้น หากกฎหมายใดกำหนดวิธี

               ปฏิบัติราชการทางปกครองเรื่องใดไว้โดยเฉพาะและมีหลักเกณฑ์ที่ประกันความเป็นธรรมหรือมีมาตรฐานในการ
   182   183   184   185   186   187   188   189   190   191   192