Page 183 - kpiebook62008
P. 183
๑๕๒
๕.๓ การเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียภาษีระหว่างกระบวนการจัดเก็บภาษี: การจัดเก็บภาษี
ภายใต้ความโปร่งใส แน่นอน และเป็นธรรม
๓๑๘. การสร้างความสมดุลระหว่างหน้าที่และสิทธิของผู้เสียภาษีจำเป็นต้องสร้างกระบวนการจัดเก็บภาษีที่
โปร่งใส แน่นอน และเป็นธรรม ทั้งนี้เพื่อให้กระบวนการจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในการจะสร้าง
ความสมดุลดังกล่าวได้จำต้องพิจารณาปัญหาตั้งแต่ขั้นตอนการสร้างความเข้าใจระหว่างผู้เสียภาษีกับหน่วยจัดเก็บ
ภาษี (๕.๓.๑) ขั้นตอนระหว่างการประเมินภาษี (๕.๓.๒) และกระบวนการโต้แย้งคัดค้านการประเมินภาษี (๕.๓.๓)
เมื่อพิจารณาปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วจำเป็นต้องวิเคราะห์หาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมโดยการพิจารณา
แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับแนวทางของต่างประเทศ
๕.๓.๑ การใช้หนังสือตอบข้อหารือเพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางการเสียภาษี
๓๑๙. การทำความเข้าใจในกระบวนการและขั้นตอนของการจัดเก็บภาษีเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อผู้เสียภาษี
เนื่องจากเป็นการประกันสิทธิของผู้เสียภาษีในเบื้องต้นว่าตนต้องกระทำอะไรเพื่อให้เกิดสิทธิประโยชน์แก่ตน และ
ไม่กระทำอะไรเพื่อไม่ให้เกิดโทษแก่ตน ในกระบวนการจัดเก็บภาษี ผู้เสียภาษีจำเป็นต้องศึกษากฎหมาย กฎหมาย
ลำดับรอง และแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานจัดเก็บหลายฉบับ อีกทั้งรายละเอียดของกฎหมาย กฎหมายลำดับรอง
และแนวทางปฏิบัติยังมีความยากที่จะทำความเข้าใจสำหรับผู้เสียภาษี จึงเกิดการเสียภาษีผิดพลาดโดยมิได้จงใจ
และอาจมิได้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเต็มที่ ผู้เสียภาษีจึงพึงมีสิทธิรับรู้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะมีการ
ประเมินภาษีเพื่อให้เกิดการวางแผนภาษีได้โดยชอบด้วยกฎหมาย วิธีการใช้หนังสือตอบข้อหารือในปัจจุบันยังคงไม่
ผูกพันกรมสรรพากรจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิทธิของผู้เสียภาษี (๕.๓.๑.๑) จึงจำเป็นต้องวิเคราะห์หาระบบการ
ใช้หนังสือตอบข้อหารือที่เหมาะสม (๕.๓.๑.๒)
๕.๓.๑.๑ สภาพปัญหาเกี่ยวกับการใช้หนังสือตอบข้อหารือ
๓๒๐. วิธีการทำความเข้าใจแนวทางการเสียภาษี ในปัจจุบันกรมสรรพากรได้กำหนดวิธีทำความเข้าใจในสอง
รูปแบบอันได้แก่ การประกาศคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. ซึ่งมิได้มีสภาพบังคับเป็นกฎหมายแต่เป็นแนวทางปฏิบัติ
ของเจ้าพนักงานสรรพากรในการปฏิบัติราชการ และวิธีการตอบหนังสือข้อหารือ วิธีการตอบหนังสือข้อหารือ
วิธีการที่สามารถทำความเข้าใจแก่ผู้เสียภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเนื่องจากผู้เสียภาษีสามารถให้
ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องและกรมสรรพากรสามารถตอบได้เป็นการเฉพาะกรณี อย่างไรก็ตาม การตอบ