Page 179 - kpiebook62008
P. 179
๑๔๘
๓๐๙. หลักเกณฑ์การตรากฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิของผู้เสียภาษีในฐานะสิทธิในทรัพย์สิน เมื่อการจำกัดสิทธิ
ของผู้เสียภาษีเป็นการจำกัดสิทธิในทรัพย์ การจำกัดสิทธิในทรัพย์สินจำเป็นต้องกระทำโดยการตรากฎหมายระดับ
พระราชบัญญัติ ต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ต้องไม่เพิ่มภาระหรือกระทบต่อสิทธิของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุและ
จะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลมิได้ ต้องระบุเหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิในทรัพย์สิน
และการจำกัดสิทธิต้องใช้บังคับเป็นการทั่วไป นอกจากนี้ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
ได้กำหนดไว้อีกว่าให้การจัดเก็บรายได้แผ่นดินที่เป็นภาษีอากรจะกระทำได้ก็แต่โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย และ
การยกเว้นหรือการลดภาษีอากรใดจะกระทำได้ก็แต่โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่ให้อำนาจจัดเก็บภาษีอากรนั้น
โดยที่ต้องพิจารณาถึงความเป็นธรรม ความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งการพัฒนาและสนับสนุน
เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
๓๑๐. ผลกระทบจากการใช้หลักเกณฑ์การจำกัดสิทธิในทรัพย์สินต่อการจำกัดสิทธิของผู้เสียภาษี ในปัจจุบัน
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ การจำกัดสิทธิของผู้เสียภาษีอยู่ภายใต้หลักการจำกัด
สิทธิทั่วไปดังปรากฏตามมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ การจำกัดสิทธิ
ของผู้เสียภาษีจึงจำเป็นต้องกระทำโดยการตรากฎหมายระดับพระราชบัญญัติ การจำกัดสิทธิดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อ
หลักนิติธรรม ต้องไม่เพิ่มภาระหรือกระทบต่อสิทธิของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุและจะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็น
มนุษย์ของบุคคลมิได้ ทั้งนี้ การจำกัดสิทธิต้องระบุเหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิในทรัพย์สิน และการ
จำกัดสิทธิต้องใช้บังคับเป็นการทั่วไป ดังนั้นสิทธิของผู้เสียภาษีย่อมได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็
ตาม การตรากฎหมายภาษีของรัฐสภามักให้อำนาจแก่ฝ่ายบริหารในการแก้ไข และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางภาษี
ที่สำคัญจนทำให้ฝ่ายบริหารสามารถกำหนดเนื้อหาของกฎหมายภาษีได้เอง การที่ฝ่ายบริหารอาจตรากฎหมายภาษี
ได้เองในลักษณะดังกล่าวย่อมกระทบต่อสิทธิของผู้เสียภาษีโดยตรงเนื่องจากฝ่ายบริหารอาจลิดรอนสิทธิของผู้เสีย
ภาษีโดยพลการ หรือกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างไม่เป็นธรรมโดยฝ่ายบริหารอาจอ้างได้ว่าได้รับความ
ยินยอมจากรัฐสภาแล้ว ดังตัวอย่างเช่น การตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อลดหรือยกเว้นภาษีตามมาตรา ๓ แห่ง
ประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาแล้วจะพบว่าการตรากฎหมายลักษณะดังกล่าวเท่ากับเป็นการตรากฎหมายที่
ไม่ได้ผ่านความยินยอมจากผู้แทนของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ชอบด้วยหลักความชอบด้วยกฎหมายภาษี