Page 50 - kpiebook62002
P. 50
สืบสวนไม่ได้ท าอย่างจริงจังมาเป็นการท างานเชิงรุกโดยมุ่งขยายผลท าลายองค์กรค้ามนุษย์ข้ามชาติโดยใช้
รูปแบบการวิเคราะห์ข่าวกรองน าการปราบปราม (intelligence-led enforcement model) จ น
สหรัฐอเมริกาเข้ามาร่วมท างานมากโดยส่งผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยสืบสวนของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
(Homeland Security Investigations: HSI) และส านักงานสอบสวนกลาง (Federal Bureau of
Investigation: FBI) ประจ ากรุงเทพฯ มาร่วมพัฒนาระบบงานและจัดตั้งคณะท างานปราบปรามการล่วง
ละเมิดทางเพศเด็กต่ออินเทอร์เน็ต (Thailand Internet Crimes Against Children Task Force: TICAC)
4
ส านักงานต ารวจแห่งชาติ และสนับสนุนการฝึกอบรมให้กับต ารวจประเทศเพื่อนบ้าน (“จับเข่าคุย ‘มือปราบ
การค้ามนุษย์’,” 2561)
สถิติการด าเนินคดีเองก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ความส าเร็จในการปรับเปลี่ยนการท างานได้ดีขึ้น ตาม
รายงานผลการด าเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจ าปี 2560 ของกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (2561) แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า จ านวนคดีค้ามนุษย์ที่แต่เดิมมี
มากแต่อัยการไม่สามารถสั่งฟ้องหรือศาลยังไม่พิพากษาลงโทษนั้น เปลี่ยนเป็นคดีที่สั่งฟ้องและศาลพิพากษา
ลงโทษมากกว่าร้อยละ 90 (น. 21) การพิจารณาคดีในชั้นศาลเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น ร้อยละ 93 ของคดี
ค้ามนุษย์ที่เข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาล ศาลมีค าตัดสินภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันฟ้อง (น. 25)
องค์การนอกภาครัฐเปลี่ยนไปให้ความสนใจปัญหาเรื่องแรงงานแทนเรื่องปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ (ธรรมศักดิ์
วิชชารยะ, สัมภาษณ์, 22 มีนาคม 2562)
จากการปรับเปลี่ยนการท างานดังที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลให้อันดับของไทยในรายงานการค้า
มนุษย์ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยในปี 2016 มาอยู่ในระดับกลุ่มที่ 2 บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามอง ซึ่งเป็นผล
จากความพยายามแก้กฎหมายของไทยให้มีก าหนดโทษหนักขึ้นและการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ อย่างไรก็
ตาม ประเด็นเจ้าหน้าที่รัฐยังคงเป็นปัญหาส าคัญที่ต้องแก้ไข (สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทย,
2559) ในปี 2018 ไทยถูกปรับอันดับขึ้นมาอยู่ในกลุ่มที่ 2 โดยในรายงานระบุว่า ไทยมี “ความพยายามอย่างมี
นัยส าคัญ” ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลไทย “พยายามมากขึ้นในการด าเนินคดีและพิพากษาลงโทษนักค้า
มนุษย์จ านวนมากขึ้น และลดระยะเวลาในการด าเนินคดีการค้ามนุษย์โดยใช้หน่วยงานเฉพาะทางด้านการ
ปราบปรามการค้ามนุษย์” ซึ่งโดยรวมถือเป็นความพยายามบังคับใช้กฎหมายให้ดียิ่งขึ้น (สถานทูตสหรัฐและ
สถานกงสุลในประเทศไทย, 2561)
ต่างประเทศสหรัฐในการเตรียมจัดท ารายงานการค้ามนุษย์ในปี 2013 มีจ านวนเพิ่มขึ้นเป็น 46 หน้า ส่วนรายงานปี 2013 เพิ่มเป็น 78 หน้า ส าหรับ
รายงาน “Thailand’s Trafficking in Persons 2014: Country Report” มีเนื้อหาที่ละเอียดมากขึ้นอย่างชัดเจนมากถึง 164 หน้า รายงานรัฐบาล
ไทยในปี 2015 ที่มีชื่อว่า “Trafficking in Persons Report 2015: The Royal Thai Government’s Response, 1 January – 31 December
2015” มีจ านวน 131 หน้า ส่วนรายงานหลังจากนั้น ที่ใช้ชื่อว่า “Thailand’s Country Report on Anti-Human Trafficking Response” มี
จ านวนหน้าเพิ่มขึ้นไปอีกถึง 194 หน้าในปี 2016 และลดลงเหลือ 63 หน้าในปี 2017 จ านวนหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปนี้สอดคล้องกับการที่รัฐบาลไทย
แสดงถึงความพยายามที่เพิ่มมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์จนเริ่มลดความส าคัญในปัจจุบัน ดู Royal Thai Embassy, Washington D.C.,
Thai Anti-Human Trafficking Action, http://www.thaianti-humantraffickingaction.org
4 คณะท างานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศเด็กต่ออินเทอร์เน็ต, ความเป็นมา, สืบค้นจาก http://ticac.police.go.th/ความเป็นมา-2/
[34]