Page 180 - kpiebook62002
P. 180

ข่าวกรองและร่วมมือทางทหารด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยมีตัวแทนจากเอสโตเนียท าหน้าที่เป็น

               ประธานศูนย์ อันท าให้เอสโตเนียมีบทบาทหลักในการด าเนินนโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในยุโรป
               ซึ่งการด าเนินแผนงานของศูนย์จะอยู่บนพื้นฐานของหลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสงครามทางไซเบอร์

               (Manual on International Law Applicable to Cyber Warfare) หรือคู่มือทาลลินน์ (Tallinn Manual)

               ทั้งนี้ เอสโตเนียจะเป็นผู้จัดหางบประมาณในการด าเนินงานของศูนย์ โดยงบประมาณศูนย์ CCDCOE เป็นส่วน
               หนึ่งของงบประมาณกระทรวงกลาโหมของเอสโตเนีย (Crandall, 2014, 36-37)

                       ในปี 2017 ได้มีการทบทวนคู่มือปฏิบัติใหม่โดยเรียกว่า คู่มือทาลลินน์ 2.0 (Tallinn Manual 2.0) ซึ่ง

               แตกต่างจากคู่มือฉบับเดิม คือ มีการเพิ่มบทวิเคราะห์ทางกฎหมายในการใช้อ านาจรัฐจัดการกับภัยคุกคามทาง
               ไซเบอร์ที่มีโดยทั่วไป รวมทั้งการใช้ก าลังทหารจัดการ/รับมือเท่าที่จ าเป็น ขณะที่ฉบับปี 2013 จะเน้นการ

               ปฏิบัติการต่อภัยคุกคามที่มีผลกระทบร้ายแรง ซึ่งอาจน าไปสู่การละเมิดการใช้ก าลังทหารตามกฎหมายระหว่าง

               ประเทศ รวมถึงสิทธิของแต่ประเทศในการป้องกันตนเอง กล่าวอีกนัยหนึ่ง คู่มือฉบับล่าสุดจะครอบคลุมการ
               อธิบายทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับไซเบอร์ทั้งในยามสงบและสงคราม ตลอดจนถึงขอบเขตอ านาจอธิปไตย

               สิทธิมนุษยชน กฎหมายทางทะเล กฎหมายอวกาศ และกฎหมายทางการทูต (CCDCOE, 2017)

                       อีกกลไกที่สร้างขึ้นมาหลังเหตุการณ์ปี 2007 คือ Cyber-Defense League (CDL) โดยมีอาสาสมัคร
               ทั้งจากภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและสร้างความมั่นคงปลอดภัยไซ

               เบอร์แก่ประเทศโดยการก ากับของกระทรวงกลาโหม อีกทั้งยังมีการท างานร่วมกับเนโต้ผ่านโครงการ

               แลกเปลี่ยนความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ ซึ่งถือเป็นนโยบายของเอสโตเนียในการสร้างเครือข่ายความ
               ร่วมมือนานาชาติ ภายใต้วิสัยทัศน์คือ การปกป้องวิถีชีวิตที่ทันสมัยของชาวเอสโตเนีย (high-tech way of

               life) เนื่องจากอาสาสมัครมาจากทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน กิจกรรมของโครงการนี้จึงครอบคลุมทั้งการ

               ประเมินความมั่นคงทางทหาร การโจมตีทางเศรษฐกิจ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ จุดประสงค์ของการก่อตั้ง
               CDL คือ ต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงไซเบอร์สามารถอาสาท างานด้านความมั่นคงแห่งชาติโดยไม่มี

               ข้อผูกมัดจนกระทบหน้าที่การงานและครอบครัว ประการที่สอง หน่วยความมั่นคงของเอสโตเนียสามารถ

               ก าหนดแผนยุทธศาสตร์รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ได้มีประสิทธิภาพมาก
               ขึ้น และประการสุดท้าย เป็นการประหยัดต้นทุนงบประมาณ แต่ได้งานที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม

               โครงการ CDL ก็มีความท้าทายทั้งจากการด าเนินงานระยะยาว เนื่องจากผู้ปฏิบัติงานเป็นอาสาสมัครที่อาจ

               ถอนตัวเมื่อไรก็ได้ และผู้เชี่ยวชาญจ านวนมากท างานในต าแหน่งที่ส าคัญของบริษัทเอกชน หากเกิดเหตุการณ์
               วิกฤตที่ต้องการตัวด่วนก็อาจเป็นไปได้ยาก (Cardash, Cilluffo, and Ottis, 2013, 779-780; Crandall,

               2014, 39)

                       การพัฒนาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของเอสโตเนียได้รับการขับเคลื่อนในฐานะเครื่องมือหลัก
               ส าหรับบรรลุเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งมีผลต่อการอยู่รอดของประเทศท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก

               หลังสงครามเย็น โดยเอสโตเนียสามารถใช้การพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับไซเบอร์ส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตย

               สร้างความความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และพัฒนาสังคม อีกทั้งเอสโตเนียยังสามารถแสดงบทบาทน าบทเวที




                                                          [164]
   175   176   177   178   179   180   181   182   183   184   185