Page 135 - kpiebook62002
P. 135

รัฐบาลไทยและเมียนมาจะจัดท าแผนการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาไทย-เมียนมา ระยะ 3 ปีใน

               วงเงิน 4.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมโครงการให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมาและรัฐยะไข่ทั้งด้านการเกษตร
               การศึกษา สาธารณสุข และโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ อีกทั้งได้ให้ความช่วยเหลือผ่านกลไกกาชาดสากล

               โดยนายจักร บุญ-หลง เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง พบกับนาย Fabrizio Carboni ต าแหน่งผู้แทน

               (Resident Representative) คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the
               Red Cross: ICRC) ประจ าเมียนมาในวันที่ 12 ตุลาคม 2017 เพื่อมอบเงินช่วยเหลือประมาณ 150,000

               ดอลลาร์สหรัฐ ส าหรับใช้บรรเทาสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในรัฐยะไข่ โดยมีผู้แทนรัฐบาลเมียนมาทั้งจาก

               กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวง สวัสดิการสังคม การบรรเทาทุกข์ และการตั้งถิ่นฐานใหม่เข้าร่วม เพื่อ
               เป็นการตอกย้ าความมุ่งมั่นของไทยที่จะสนับสนุนรัฐบาลเมียนมาในการจัดการกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม

               ในรัฐยะไข่ ผ่านกลไกการท างานร่วมกับขบวนการกาชาด (Red Cross Movement) ที่รัฐบาลเมียนมาจัดตั้ง

               ขึ้น (สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง, 2560)
                       นอกจากการมอบเงินช่วยเหลือในกรอบทวิภาคีแล้ว ไทยยังให้ความช่วยเหลือในกรอบไตรภาคีไทย-

               ญี่ปุ่น-เมียนมา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมความร่วมมือระหว่างประเทศและกรม ประมงของไทย กับ

               องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) จัดการ
               ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประมงจากรัฐบาลกลางเมียนมาและส่วนภูมิภาคอย่างรัฐยะไข่ทั้งการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล การ

               เพาะเลี้ยงปลาเพื่อน าไปปรับใช้กับการเพาะเลี้ยงปลา Giant Butter Catfish ซึ่งเป็นปลาประจ าถิ่นที่ชาวเมียน

               มานิยมบริโภคอย่างมาก นอกเหนือจากการมอบเงินช่วยเหลือและการมอบเครื่องมือทางการเกษตร ยังมี
               โครงการสร้างโรงสีข้าวและอาคารโรงเรียนซึ่งด าเนินการอยู่และมุ่งบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

               (Sustainable Development Goals: SDGs) ของสหประชาชาติด้วย (กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ,

               2560)
                       ขณะนี้การให้เงินช่วยเหลือเริ่มเปลี่ยนจากการให้แต่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปสู่การสนับสนุน

               กระบวนการตั้งถิ่นฐานใหม่รัฐยะไข่ ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศต่อที่ปรึกษา

               แห่งรัฐเมียนมาอองซานซูจี จากการพบหารือทวิภาคี ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 ที่ฟิลิปปินส์
               เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 สนับสนุนรัฐบาลเมียนมาในการแก้ไขปัญหาในรัฐยะไข่เพิ่มเติมหลังจากที่

               สถานการณ์ในรัฐยะไข่ดีขึ้น โดยไทยมอบเงินช่วยเหลือเพื่อสนับสนุนการตั้งถิ่นฐานใหม่ในรัฐยะไข่ในวันที่ 19

               มกราคม 2018 มูลค่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ ผ่าน “กิจการสหภาพเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การ
               ตั้งถิ่นฐานใหม่ และการพัฒนาในรัฐยะไข่” (UEHRD) เพื่อสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และ ความสมานฉันท์ใน

               รัฐยะไข่ (สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง, 2561)

                       การด าเนินการต่างๆ ของไทยจึงแสดงให้เห็นถึงบทบาทของไทยในสถานะ “เพื่อนบ้านที่ดี” ที่เข้าไป
               ช่วยเหลือผ่านการพัฒนาในมิติต่างๆ ในรัฐยะไข่ รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพื่อเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาและ

               หาทางออกให้กับเมียนมามากกว่าที่จะเลือกกดดันเมียนมา






                                                          [119]
   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140