Page 92 - b29416_Fulltext
P. 92

90


                          3. จ านวน ส.ส. ทั้งสภาคงไว้ตามเดิมที่ 500 เพื่อไม่น าไปสู่การเปลี่ยนโครงสร้างของสภาและ

                   พรรคการเมือง แต่เปลี่ยนสัดส่วนระหว่าง ส.ส. เขตและบัญชีรายชื่อเป็น 300:200 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน
                   60:40 ที่มีความเป็นสากล แต่นอกเหนือจากเหตุผลในด้านความเป็นสากลแล้ว การเพิ่มสัดส่วนที่นั่ง

                   ในระบบบัญชีรายชื่อ มีเหตุผลส าคัญสนับสนุน 3 ประการคือ ประการแรก ระบบบัญชีรายชื่อท าให้

                   พรรคการเมืองทางเลือกแข่งขันได้มากขึ้น โดยเฉพาะพรรคทางเลือกที่ไม่ได้มีฐานเสียงในท้องถิ่นใด
                   ท้องถิ่นหนึ่ง แต่เป็นพรรคทางเลือกเชิงนโยบาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพประชาธิปไตยของ

                   ระบบการเมือง ประการที่สอง การเพิ่มที่นั่งบัญชีรายชื่อให้มากขึ้นจะสร้างความเป็นสัดส่วนได้มากขึ้น
                   เพราะท าให้สามารถจัดสรรที่นั่งให้กับแต่ละพรรคได้เพียงพอกับที่นั่งที่แต่ละพรรคได้รับในคะแนน

                   บัญชีรายชื่อ และยังป้องกันปัญหาการมีที่นั่งส่วนเกินในระบบเขตด้วย (ยิ่งมีที่นั่งระบบเขตมาก ย่อมมี
                   โอกาสที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่หรือพรรคขนาดกลางแนวท้องถิ่นนิยมจะชนะเขตเลือกตั้ง

                   มากเกินกว่าความนิยมของพรรคในระดับประเทศ ดังที่เห็นได้จากการเลือกตั้งของไทยระหว่างปี

                   2544-2562) ประการที่สาม การมีผู้แทนในระบบเขตนั้นส าคัญเพื่อสร้างความยึดโยงระหว่าง
                   นักการเมืองกับประชาชนบนฐานการท างานเชิงพื้นที่ที่มีขอบเขตชัดเจน (เนื่องจากผู้แทนในระบบ

                   บัญชีรายชื่อไม่ได้มีเขตเลือกตั้งเป็นของตัวเอง แต่เป็นผู้แทนระดับชาติ) และยังเป็นการสร้าง

                   ความรับผิดที่ชัดเจนว่าเมื่อเขตเลือกตั้งใดมีปัญหา ประชาชนจะไปเรียกร้องหาความรับผิดชอบจาก
                   ใคร อย่างไรก็ตาม สังคมต้องการผู้แทนที่จะมาดูแลภาพรวมนโยบายระดับประเทศด้วย การมีผู้แทน

                   เขตที่มากเกินไปจะท าให้รัฐสภามีมุมมองที่คับแคบ (narrow scope) คือ นักการเมืองแต่ละคนจะมุ่ง
                   พิทักษ์ผลประโยชน์และเป็นปากเสียงให้กับเขตท้องที่ของตัวเอง ท าให้ภาพใหญ่ของประเทศถูกละเลย

                   หรือประเด็นปัญหาที่ไม่ได้ผูกกับพื้นที่ไม่ถูกให้ความใส่ใจได้ (คือมี area-based representation
                   มากกว่า issue-based representation) ในทางหลักการ ปัญหาพื้นฐานในท้องถิ่นในแต่ละจังหวัด

                   ควรจะเป็นภาระงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มาดูแล สังคมไทยควรมียุทธศาสตร์

                   ในการผลักดันการกระจายอ านาจไปสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริงเพื่อดึงศักยภาพของท้องถิ่นมาแก้ปัญหา
                   และท าให้การแก้ปัญหาใกล้ชิดประชาชน ส่วนผู้แทนในรัฐสภาควรมีจุดเน้นไปที่การพัฒนาวิสัยทัศน์

                                                                    47
                   มุมมอง และข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาระดับชาติมากกว่า  โดยสรุป สังคมไทยสามารถลดสัดส่วน
                   ส.ส. ในระบบเขตลง และเพิ่ม ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อให้มากขึ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ทุกพรรค

                   การเมืองพัฒนาตนเองให้เป็นพรรคการเมืองระดับชาติมากกว่าเป็นพรรคท้องถิ่น และน าเสนอ

                   นโยบายมาแข่งขันมากกว่าแข่งกันแย่งตัวผู้สมัครที่สังกัดตระกูลการเมืองใหญ่หรือมีชื่อเสียงส่วนบุคคล
                   มาเป็นจุดขายในการเลือกตั้ง






                   47  ผู้วิจัยเคยเสนอไว้ในงานวิจัยเกี่ยวกับการกระจายอ านาจว่าควรมีการปฏิรูประบบเลือกตั้งท้องถิ่นให้เหมาะสมเพื่อท าให้องค์กร
                   ปกครองส่วนท้องถิ่นได้ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติที่เข้มแข็ง มีความเป็นสัดส่วน และมีความพร้อมรับผิดต่อประชาชน ซึ่งจะช่วยท า
                   ให้การเมืองในระดับชาติสามารถมุ่งเน้นไปที่การท างานเชิงยุทธศาสตร์ระดับประเทศได้ ดู ประจักษ์ ก้องกีรติ, ระบบการเลือกตั้งท้องถิ่น:
                   สภาพปัญหาและข้อเสนอในการปฏิรูป (กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า, 2559.)
   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97