Page 86 - b29416_Fulltext
P. 86
84
คือ พรรค Labour และพรรค National ซึ่งผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะในการตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ซึ่งคน
นิวซีแลนด์มีความคิดเห็นว่าการมีรัฐบาลพรรคเดียวนั้นท าให้ตรวจสอบยาก ขาดการถ่วงดุล และ
ผู้มีอ านาจในรัฐบาลมักจะไม่ค่อยฟังเสียงประชาชน ที่ส าคัญรัฐบาลพรรคเดียวนั้นเกิดจากการที่ระบบ
เลือกตั้งเอื้อให้พรรคขนาดใหญ่มีที่นั่งเสียงข้างมากในสภาทั้งที่ได้คะแนนเสียงมาในสัดส่วนที่ไม่ถึงครึ่ง
ของผู้ลงคะแนน (Renwick 2011; Jackson and McRobie 1998)
กระแสความไม่พอใจน าไปสู่การผลักดันการปฏิรูปการเมือง ในปี ค.ศ. 1984 มีการตั้ง
คณะกรรมการขึ้นมาศึกษาและจัดท าข้อเสนอแนะในการปฏิรูประบบเลือกตั้ง ชื่อว่า Royal
Commission on the Electoral System ข้อเสนอของคณะกรรมการคือให้ประเทศเปลี่ยนไปใช้
ระบบผสมแบบสัดส่วน (MMP) ที่คล้ายคลึงกับเยอรมนี เมื่อข้อเสนอเสร็จสิ้นและได้รับการเผยแพร่สู่
สาธารณะ ขั้นตอนต่อไปคือ รัฐบาลจัดท าประชามติให้ประชาชนทั้งประเทศออกเสียง ซึ่งประชาชน
นิวซีแลนด์เสียงข้างมากลงประชามติรับรองการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวที่คณะกรรมการเสนอ
นิวซีแลนด์จึงเป็นกรณีศึกษาที่น่าน ามาเป็นแบบอย่าง เพราะนอกจากมีการตั้งคณะกรรมการ
ที่เป็นกลางมาศึกษาทางเลือกเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของระบบเลือกตั้งต่างๆ อย่างรอบด้านแล้ว ยังมี
การน าข้อเสนอดังกล่าวเผยแพร่สู่สาธารณะอย่างกว้างขวางเพื่อให้การศึกษาทางการเมืองและสร้าง
การถกเถียงในสังคม นับว่าเป็นการสร้างประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารืออย่างแท้จริง และเมื่อผ่าน
ขั้นตอนการให้ความรู้และถกเถียงแล้ว ก็ยังมีการเปิดโอกาสให้ประชาชนลงมติด้วย โดยเป็นการลง
ประชามติที่ใสสะอาด บริสุทธิ์ยุติธรรม ฝ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับระบบเลือกตั้งที่
คณะกรรมการน าเสนอสามารถเคลื่อนไหวรณรงค์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างประชาธิปไตย
ทางตรงที่สวยงาม ซึ่งเมื่อพิจารณาประเทศอื่นๆ ที่มีการปฏิรูประบบเลือกตั้งเช่นกัน ส่วนใหญ่มักจะ
พิจารณาแก้ไขระบบเลือกตั้งในสภาโดยไม่มีการตั้งคณะกรรมการศึกษาและท าประชามติ เช่น
ประเทศญี่ปุ่น อิสราเอล เวเนซุเอลา ซึ่งท าให้รายละเอียดในการออกแบบระบบเลือกตั้งเป็นผลมาจาก
การต่อรองประนีประนอมระหว่างพรรคการเมืองที่ครองอ านาจอยู่ ณ ขณะนั้น (Catalinac 2016;
Shugart and Wattenberg 2001, 578)
ในท้ายที่สุดหลังจากกระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้น ในปี ค.ศ. 1994 นิวซีแลนด์ได้เปลี่ยน
ระบบเลือกตั้งจากระบบเสียงข้างมากมาเป็นระบบผสมแบบสัดส่วน และมีการจัดเลือกตั้งภายใต้ระบบ
นี้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1996 โดยระบบเลือกตั้งแบบผสมของนิวซีแลนด์ใช้รูปแบบสภาเดี่ยว มีเฉพาะ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีวุฒิสภาหรือสภาสูง โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจ านวนทั้งสิ้น 120
คน แบ่งเป็นผู้แทนระบบเขต 71 คน และผู้แทนบัญชีรายชื่อ 49 คน อยู่ในวาระ 3 ปี และมีการ
ก าหนดเพดานขั้นต่ าในระบบบัญชีรายชื่อไว้ที่ร้อยละ 5 คือ พรรคการเมืองที่จะได้รับการจัดสรรที่นั่ง
ในสภาต้องได้คะแนนจากผู้เลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เพื่อป้องกันการมีพรรคการเมืองจ านวนมาก
จนเกินไปในสภา รวมทั้งป้องกันพรรคที่มีแนวทางการเมืองสุดโต่งเข้าสู่อ านาจ ทั้งนี้ เพดานขั้นต่ า
ดังกล่าวมีข้อยกเว้น คือ ในกรณีที่พรรคการเมืองได้ที่นั่งในระบบเขตอย่างน้อย 1 ที่นั่ง แม้จะได้
คะแนนบัญชีรายชื่อไม่ถึงร้อยละ 5 ก็จะได้รับการจัดสรรที่นั่ง (Denemark 2001)

