Page 38 - b29416_Fulltext
P. 38
36
เป็นสิ่งของ เงินทอง หรือโครงการ มากกว่าจะมุ่งน าเสนอนโยบายที่เป็นเอกภาพและตอบสนองปัญหา
ระดับชาติ นอกจากนั้น ระบบเลือกตั้งแบบเขตเดียวหลายเบอร์ยังก่อให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงใน
การแข่งขัน เนื่องจากกติกาของระบบนี้ท าให้ผู้สมัครทุกคนเป็นคู่แข่งกับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้สมัคร
ที่มาจากพรรคเดียวกัน เนื่องจากผู้เลือกตั้งสามารถเลือกผู้สมัครจากต่างพรรคได้ ทั้งยังมีสิทธิเลือก
ผู้สมัครได้มากกว่า 1 คน (ขึ้นอยู่กับขนาดของเขตเลือกตั้ง ซึ่งมีตั้งแต่ 1-3 คน) ผู้สมัครแต่ละคนจึงต้อง
หาเสียงโดยอาศัยทุกรูปแบบเพื่อรับประกันให้ตนเองได้เสียงมากที่สุด โดยไม่เน้นการหาเสียงเป็นทีม
ผ่านพรรคการเมือง เพราะอาจถูกผู้สมัครจากพรรคเดียวกันหักหลังได้ ระบบเลือกตั้งที่ใช้ก่อนปี พ.ศ.
2540 จึงทั้งท าลายความเข้มแข็งของสถาบันพรรคการเมือง และเอื้อให้เกิดความรุนแรงสูงในการ
เลือกตั้ง (Prajak 2014)
รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 มุ่งเปลี่ยนแปลงสภาพปัญหาดังกล่าว โดยออกแบบระบบ
เลือกตั้งที่เน้นพัฒนาพรรคการเมืองให้เข้มแข็งและขจัดมุ้งการเมือง รวมทั้งสร้างแรงจูงใจให้ผู้สมัคร
และพรรคการเมืองต้องตอบสนองต่อฐานเสียงที่กว้างขวางในระดับชาติ
ระบบเลือกตั้งแบบใหม่ที่น ามาใช้ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมการออกแบบที่เปลี่ยนการเมืองไทย
ไปอย่างสิ้นเชิง คือ การใช้ระบบเลือกตั้งแบบผสม (mixed system) ที่มีผู้แทนมาจาก 2 ช่องทาง คือ
ผู้แทนในระบบเขตจ านวน 400 คน และผู้แทนฯ ในระบบสัดส่วน 100 คน โดยใช้ระบบเสียงข้างมาก
แบบเขตเดียวคนเดียว (First Past the Post–FPTP) ในการเลือกผู้แทนฯ ระบบเขต และใช้ระบบ
บัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ (List Proportional Representation System–List PR) ในการเลือก
ผู้แทนฯ ระบบสัดส่วน ระบบเลือกตั้งใหม่นี้ต้องการลดการแข่งขันภายในพรรคจากระดับเขตเลือกตั้ง
ในพื้นที่ ขณะเดียวกันก็ขับเน้นให้เกิดการแข่งขันเชิงนโยบายผ่านการสร้างระบบบัญชีรายชื่อที่ทุก
พรรคสามารถหาเสียงโดยใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ และเน้นให้เกิดการสร้างความเป็นสถาบันพรรค
การเมือง และให้พรรคการเมืองเป็นผู้ผลิตนโยบายให้ประชาชนเลือก (มากกว่าที่จะไปอ้างอิงหรือน า
นโยบายมาจากระบบราชการดังแต่เดิม) นอกจากระบบเลือกตั้งแบบใหม่แล้ว รัฐธรรมนูญฉบับปี
พ.ศ. 2540 ยังออกแบบมาตรการหลายประการมาบังคับใช้เพื่อสร้างพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง อาทิ
กฎเหล็กห้ามย้ายพรรค 90 วันก่อนเลือกตั้ง การก าหนดให้ ส.ส. ต้องสังกัดพรรค และหัวหน้าพรรคมี
อ านาจควบคุมวินัยเหนือสมาชิกพรรค เป็นต้น (Somchai 2008; Hicken 2007)
รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 ประสบความส าเร็จหลายประการในการเปลี่ยนการเมืองไทย
เป้าหมายประการแรกในการลดจ านวนพรรคการเมืองนั้นถือว่าประสบความส าเร็จ จ านวนพรรค
การเมืองที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งและมีบทบาทในการแข่งขันลดลงจาก 6.2 เหลือ 3.1 และ
เป็นครั้งแรกที่พรรคการเมืองหนึ่งชนะการเลือกตั้งโดยได้ที่นั่งเกือบจะเกินกึ่งหนึ่ง พรรคการเมืองให้
ความส าคัญกับการแข่งขันเชิงนโยบายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ระบบการเลือกตั้งแบบเขตเดียวคนเดียว
ที่น ามาใช้ก็ยังคงสร้างแรงจูงใจให้ผู้สมัครสร้างเครือข่ายการเมืองส่วนตัวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แม้ว่าจะดี
ขึ้นกว่าระบบเขตเดียวหลายเบอร์ที่เคยใช้อยู่ก็ตาม (Siripan 2006; Kuhonta 2008)