Page 35 - b29416_Fulltext
P. 35
33
และบาดเจ็บจ านวนมาก ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคเพื่อไทย (ซึ่งตั้งขึ้นมาแทนที่พรรคพลัง
ประชาชนที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบไป) น าโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้งเสียงข้างมาก
ด้วยจ านวนที่นั่งในสภาฯ 265 ที่นั่ง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์น าโดยนายอภิสิทธิ์ได้ที่ 2 อีกครั้งด้วย
จ านวนที่นั่งในสภาฯ 159 ที่นั่ง และพรรคภูมิใจไทยของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ซึ่งเป็นพรรคตั้งใหม่
และสมาชิกส่วนใหญ่ย้ายมาจากพรรคพลังประชาชน ตามมาเป็นอันดับ 3 โดยได้ที่นั่งในสภาฯ จ านวน
32 ที่นั่ง (ดูเพิ่มเติมใน ประจักษ์ 2556)
6. การเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2562 เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกภายใต้กติกาของรัฐธรรมนูญฉบับ
ปี พ.ศ. 2560 และเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกนับจากเกิดการรัฐประหาร ปี พ.ศ. 2557 นั่นหมายความ
ว่า ประชาชนไทยห่างหายไปจากการใช้สิทธิเลือกตั้งถึง 5 ปี นับเป็นช่วงที่สังคมไทยว่างเว้นจาก
กระบวนการเลือกตั้งยาวนานที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์ (ครั้งสุดท้ายคือช่วงระบอบสฤษดิ์-ถนอม)
การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นในบริบทที่สังคมยังมีความแตกแยกแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างสูงโดยเฉพาะ
ในทางอุดมการณ์ ความขัดแย้งดังกล่าวมิได้ถูกแก้ไขในเชิงโครงสร้าง เพียงแต่ถูกกดไว้มิให้เผยตัว
ออกมาได้ด้วยการใช้ความรุนแรงและกลไกทางกฎหมายปิดกั้นการแสดงออกทางการเมืองของ
ประชาชนตลอดช่วง 5 ปีภายใต้การบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ภายใต้
การน าของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งขึ้นมามีอ านาจจากการรัฐประหารล้มรัฐบาลของนางสาวยิ่ง
ลักษณ์ (Prajak 2019a; Punchada 2019)
สาเหตุที่การเลือกตั้งเกิดขึ้นล่าช้า เพราะ คสช. เลื่อนก าหนดการจัดเลือกตั้งที่ตนก าหนด
ขึ้นเองหลายครั้ง แม้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะผ่านประชามติไปแล้วตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ปี พ.ศ.
2559 ซึ่งเป็นประชามติที่จัดขึ้นในบรรยากาศที่ไม่เสรี เนื่องจากฝ่ายที่คัดค้านรัฐธรรมนูญไม่สามารถท า
การรณรงค์อย่างเปิดเผยได้ รัฐใช้อ านาจปิดกั้นและควบคุมสื่อ มีการให้ข้อมูลด้านเดียวในลักษณะชี้น า
เกี่ยวกับเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ มีการระดมกลไกรัฐเพื่อโน้มน้าวประชาชนให้รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
ทั้งยังมีการจับกุมนักศึกษาและนักกิจกรรมที่รณรงค์คัดค้านรัฐธรรมนูญในช่วงประชามติจ านวนมาก
18
การเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองจัดตั้งขึ้นใหม่และลงแข่งขันจ านวนมาก เนื่องจากสังคมไทย
ว่างเว้นจากการเลือกตั้งเป็นเวลานาน โดยมียอดผู้สมัครและจ านวนพรรคการเมืองมากเป็น
ประวัติการณ์ คือ มีผู้สมัครแบบแบ่งเขตจ านวน 11,128 คน จากพรรคการเมือง 80 พรรค และแบบ
บัญชีรายชื่อ 2,718 คนจาก 72 พรรค รวมผู้สมัครทั้งสิ้น 13,846 คน และมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 51
ล้านคน
19
18 ดูรายละเอียดใน หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ, “การเมืองของการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559” (วิทยานิพนธ์รัฐศาสตร์
มหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2560), และ Siripan Nogsuan (2020), “Electoral integrity and the
repercussions of institutional manipulations: The 2019 general election in Thailand,” Asian Journal of Comparative
Politics, 5: 1, pp. 52-68.
19 “เลือกตั้ง 2562 ผู้สมัคร ส.ส. ทะลุหมื่นคน มากกว่าปี 2554 กว่า 3 เท่า," ไทยรัฐ, 8 ก.พ. 2562.