Page 34 - b29416_Fulltext
P. 34

32


                   เมืองไทย ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งน าโดยนายชวน หลีกภัยตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยจ านวนที่นั่ง

                   ในสภาฯ 128 ที่นั่ง
                          2. การเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2548 ซึ่งพรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง หลังจาก

                   รัฐบาลของนายทักษิณด ารงต าแหน่งครบวาระ 4 ปี (เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลไทยซึ่งมาจากการเลือกตั้ง

                   สามารถอยู่ในต าแหน่งจนครบวาระ) โดยได้คะแนนเสียงอย่างถล่มทลายเป็นประวัติศาสตร์ คือ
                   ได้ที่นั่งในสภาฯ ถึง 377 ที่นั่ง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 75 ของที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ส าหรับพรรค

                   ประชาธิปัตย์ที่น าโดยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ตามมาเป็นอันดับ 2 โดยได้ที่นั่งในสภาฯ เพียง 96 ที่นั่ง
                   พรรคชาติไทยได้ 26 ที่นั่ง และพรรคมหาชนที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ได้เพียง 3 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์

                                                                       17
                   ใหม่เช่นกันที่หลงเหลือเพียง 4 พรรคการเมืองในระบบเข้าสู่สภา
                          3. การเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งหลังจากที่รัฐบาลของนายทักษิณ

                   ประกาศยุบสภาเมื่อเผชิญหน้ากับการประท้วงบนท้องถนนโดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ

                   ประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งครั้งนี้มีหลายพรรคการเมืองบอยคอต ไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งขันในการ
                   เลือกตั้ง ท าให้เหลือพรรคไทยรักไทยเป็นพรรคหลักพรรคเดียวในสนามเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม

                   หลังการเลือกตั้ง มีการตัดสินให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะโดยศาลรัฐธรรมนูญ น าไปสู่การออก

                   พระราชกฤษฎีกาฯ ก าหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 15 ตุลาคม ปี พ.ศ. 2549 แต่การเลือกตั้ง
                   ดังกล่าวก็มิได้เกิดขึ้น เนื่องจากกองทัพที่น าโดยพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน กระท าการรัฐประหารใน

                   วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ก่อนหน้าการเลือกตั้งไม่ถึง 1 เดือน ล้มรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ยกเลิก
                   รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 และต่อมาได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2550 ขึ้นมาแทนที่พร้อมกับ

                   เปลี่ยนระบบเลือกตั้งใหม่
                          4. การเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ

                   ฉบับปี พ.ศ. 2550 เป็นการเลือกตั้งภายใต้การควบคุมของรัฐบาลนายสุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งขึ้นมา

                   มีอ านาจจากการรัฐประหาร และมีการประกาศกฎอัยการศึกในหลายพื้นที่ ท าให้การแข่งขัน
                   การเลือกตั้งอยู่ภายใต้บรรยากาศที่จ ากัด ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคพลังประชาชน (ซึ่งตั้งขึ้นมา

                   แทนที่พรรคไทยรักไทยที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบไป) น าโดยนายสมัคร สุนทรเวช ชนะการเลือกตั้งด้วย
                   จ านวนที่นั่งในสภาฯ 233 ที่นั่ง ทิ้งห่างพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งน าโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ที่นั่ง

                   ในสภาฯ จ านวน 165 ที่นั่ง และพรรคชาติไทยของนายบรรหาร ศิลปอาชาที่ได้เพียง 37 ที่นั่ง

                          5. การเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่จัดขึ้นหลังจากรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์
                   เวชชาชีวะ ประกาศยุบสภา เป็นการเลือกตั้งภายใต้บรรยากาศที่สังคมมีความขัดแย้งแบ่งขั้วสูง เป็น

                   ผลมาจากความขัดแย้งทั้งในและนอกสภาฯ และเหตุการณ์การปราบปรามการชุมนุมของแนวร่วม
                   ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต





                   17  ดูภาพรวมเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้ใน นรนิติ เศรษฐบุตร, “ภาพรวมเหตุและผลของการเลือกตั้ง พ.ศ. 2548,” วารสาร
                   สถาบันพระปกเกล้า, 3: 1 (มกราคม-เมษายน 2548), น. 14-22.
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39