Page 31 - b29416_Fulltext
P. 31

29


                   ท าลายความเข้มแข็งของพรรคการเมือง และการเปลี่ยนระบบปาร์ตี้ลิสต์จากเขตเลือกตั้งทั้งประเทศ

                   ไปเป็นเขตเลือกตั้งภูมิภาค พยายามสร้างแรงจูงใจและบทลงโทษต่างๆ ที่ในที่สุดท าให้พรรคการเมือง
                   อ่อนแอลง ท าให้พรรคการเมืองแตกตัวและมีที่นั่งกระจัดกระจาย    และมุ่งให้มีความเป็นพรรค

                   ระดับชาติน้อยลง (less nationalization) ท าให้กลุ่มหรือมุ้งการเมืองมีอ านาจในการต่อรองกลับคืนมา

                   การลดจ านวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มาจากระบบปาร์ตี้ลิสต์จาก 100 เหลือ 80 และเปลี่ยน
                   ระบบปาร์ตี้ลิสต์จากเขตเลือกตั้งทั่วประเทศไปเป็นเขตเลือกตั้งภูมิภาคมุ่งให้เกิดผลในการลดทอน

                   ขอบเขตความนิยมและเข้มแข็งของพรรคการเมืองในระดับชาติ ซึ่งตรงข้ามกับรัฐธรรมนูญฉบับ 2540
                   ที่มุ่งสร้างแรงจูงใจให้พรรคการเมืองสร้างพรรคระดับชาติ มีฐานเสียงและฐานนโยบายครอบคลุม

                   ทั่วประเทศมากกว่าการสร้างความนิยมแค่ในระดับจังหวัดหรือภูมิภาค (Hicken 2009, 145-148)
                   นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนเขตเลือกตั้งในระบบเขตจากเขตเดียวคนเดียวกลับไปเป็นเขตเดียว

                   หลายคนแบบระบบบล็อกโหวตที่ประเทศไทยเคยใช้ก่อนปี 2540 ซึ่งเคยก่อให้เกิดปัญหาในการท าให้

                   พรรคการเมืองอ่อนแอมาแล้ว ผู้ร่างรัฐธรรมนูญให้เหตุผลในการเปลี่ยนระบบเขตเลือกตั้งทั้งในส่วน
                   บัญชีรายชื่อและระบบ ส.ส. เขตไว้ว่า การใช้เขตเลือกตั้งแบบกลุ่มจังหวัดในระบบบัญชีรายชื่อเพื่อ

                   ป้องกันมิให้มีการกระจุกตัวของผู้แทนในส่วนกลาง ซึ่งนับว่าเป็นเหตุผลที่มีน้ าหนักน้อย เพราะผู้แทน

                   บัญชีรายชื่อไม่ได้มีหน้าที่ดูแลเขตเลือกตั้งหรือเป็นตัวแทนผลประโยชน์ในระดับจังหวัดและภูมิภาค
                   แต่มีหน้าที่หลักในการดูแลผลประโยชน์ของคนทั้งประเทศและประเด็นปัญหาที่ไม่ยึดติดกับภูมิศาสตร์

                   เราจึงไม่ควรใช้หลักคิดในเรื่องภูมิศาสตร์ เป็นเกณฑ์ก าหนดที่มาของ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ประเด็นว่า
                   ส.ส. บัญชีรายชื่อมาจากจังหวัดหรือภาคใดไม่ส าคัญเท่ากับว่าเขาเหล่านั้นมีความรู้ความสามารถใน

                   เรื่องต่างๆ เป็นพิเศษหรือไม่ เช่น ความรู้ทางเศรษฐกิจ ความรู้เรื่องพลังงาน ความรู้เรื่องความมั่นคง
                   ความรู้เรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม หรือเป็นตัวแทนกลุ่มสตรี กลุ่มชาติพันธ์ กลุ่มเพศทางเลือก กลุ่ม

                   แรงงาน กลุ่มเกษตรกร เพื่อท าให้การออกกฎหมายและการอภิปรายในสภามีความรอบด้าน

                   ครอบคลุมประเด็นที่หลากหลาย มิใช่เพียงการเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของคนจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง
                   เท่านั้น ส่วนเหตุผลในการเปลี่ยนเขตเลือกตั้งในระบบเขตเป็นเขตเดียวหลายคนนั้นถูกให้เหตุผลว่าเขต

                   เลือกตั้งที่ใหญ่ขึ้นจะท าให้ผู้สมัครที่ไม่ได้มีฐานะร่ ารวยแข่งขันได้มากขึ้น ซึ่งความเชื่อดังกล่าวนี้มิได้มี
                   หลักฐานข้อมูลจากการวิจัยสนับสนุนแต่อย่างใด เขตเลือกตั้งที่ใหญ่ขึ้นกลับอาจยิ่งสร้างอุปสรรคให้

                   ผู้สมัครที่ไม่มีเงินทุนหาเสียงสนับสนุนจากประชาชนได้ยากขึ้น เพราะไม่มีทรัพยากรพอที่จะหาเสียงได้

                   ในพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ ท าให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่และผู้สมัครที่มีฐานะดีมีโอกาสชนะเลือกตั้ง
                          12
                   มากกว่า


                   12  ดู สมคิด เลิศไพฑูรย์, “ความเป็นมาและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550,” วารสารสถาบัน
                   พระปกเกล้า, 5: 3 (ก.ย. – ธ.ค.), น. 5-23 โดยค าอธิบายในส่วนการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งมีดังนี้ “การท าให้คนดีมีความสามารถ
                   เป็น ส.ส.และเป็นอิสระจากการครอบงาของพรรคการเมือง เพื่อให้ ส.ส. ท าหน้าที่ผู้แทนประชาชนอย่างเต็มที่ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของ
                   พรรค โดยปรับปรุงระบบการเลือกตั้ง ส.ส. ใหม่ โดยให้ ส.ส. ที่มาจากเขตเลือกตั้งเป็นผู้แทนในเขตเลือกตั้งที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้คนดีมี
                   ความสามารถแข่งขันกับคนที่ใช้เงินได้ ปรับปรุงระบบ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อให้เป็นระบบการเลือกตั้งแบบสัดส่วนที่มีการแบ่งเป็นกลุ่ม
                   จังหวัด 8 กลุ่มจังหวัด เพื่อมิให้เกิดการกระจุกตัวของ ส.ส. แต่ในส่วนกลาง และยกเลิกสัดส่วน 5% เพื่อให้พรรคเล็กมีที่นั่งในสภา
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36