Page 27 - b29416_Fulltext
P. 27

25


                          ผลการส ารวจพบว่า 46 % ของประเทศในโลกนี้ใช้ระบบแบบเสียงข้างมาก 36% ใช้ระบบ

                   สัดส่วน 15% ใช้ระบบผสม และ 3% ใช้ระบบอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากสามระบบดังกล่าว (Reynolds,
                   Reily, and Ellis 2005, 32)

                       ง)  ระบบอื่นๆ

                          1. SNTV (the Single Non-Transferable Vote)
                          ใช้เขตเลือกตั้งแบบมีผู้แทนได้หลายคน แต่ผู้เลือกตั้งมีสิทธิลงคะแนนได้คะแนนเดียว เคยใช้

                   ในญี่ปุ่นระหว่างปี 2481-2537 และในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกของไทยตามรัฐธรรมนูญ 2540 ปัจจุบัน
                   มีใช้แค่ในไม่กี่ประเทศ ข้อดีคือเพิ่มโอกาสให้กับผู้สมัครอิสระและผู้สมัครจากพรรคเล็กในการได้รับ

                   เลือกตั้ง
                          2. The Limited Vote (LV) เหมือนระบบ SNTV แต่ผู้สมัครมีเสียงมากกว่าหนึ่งคะแนนเสียง

                   แต่ก็น้อยกว่าจ านวนที่นั่งในเขตนั้นทั้งหมด ระบบนี้ใช้น้อยมาก ยกเว้นการเลือกตั้งท้องถิ่นใน

                   บางประเทศ และการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกของสเปน (Reynolds, Reily, and Ellis 2005, 117)
                          3. Borda Count (BC) ใช้ในประเทศเดียวคือ Nauru เป็นระบบที่ผู้เลือกตั้งสามารถจัดล าดับ

                   ความชอบของผู้สมัครจากมากไปหาน้อยเหมือนระบบ AV แต่การค านวณคะแนนต่างกันโดยตัวเลือก

                   อันดับที่หนึ่งคิดเป็นคะแนนมากกว่าตัวเลือกล าดับรองลงมา (Reynolds, Reily, and Ellis 2005,
                   118) นับว่ามีความซับซ้อนในการค านวณคะแนน


                   8. คุณภาพประชาธิปไตยและประชาธิปไตยที่มั่นคงยั่งยืน (Consolidated democracy)

                          งานวิจัยชิ้นนี้ศึกษาการออกแบบระบบเลือกตั้งโดยเชื่อมโยงกับประเด็นส าคัญสองประเด็นคือ
                   การแก้ไขความขัดแย้ง และการสร้างคุณภาพประชาธิปไตย ฉะนั้นจึงจะไม่ได้จ ากัดรูปแบบและนิยาม

                   ของประชาธิปไตยไว้เพียงแค่ประชาธิปไตยแบบเลือกตั้ง (Electoral democracy) แต่มุ่งที่จะ

                   ออกแบบระบบเลือกตั้งเพื่อน าไปสู่ประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ (democracy with quality) และ
                   ประชาธิปไตยที่มั่นคงยั่งยืน (consolidated democracy) ดังนั้น จ าเป็นต้องเริ่มจากการแยกถึง

                   ความแตกต่างระหว่างแนวคิดประชาธิปไตยทั้งสองแบบนี้ เพื่อน าไปสู่ความชัดเจนในการศึกษาวิจัย


                          ประชาธิปไตยแบบเลือกตั้ง (Electoral democracy)

                          ประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งหมายถึงรูปแบบประชาธิปไตยที่ให้ความส าคัญกับกระบวนการ
                   คัดสรรผู้น าขึ้นสู่อ านาจ โดยมองว่าองค์ประกอบที่ส าคัญที่สุดที่แยกประชาธิปไตยออกจากการ

                   ปกครองรูปแบบอื่นๆ อยู่ที่กระบวนการมากกว่าเนื้อหา โดยกระบวนการที่ส าคัญที่สุดที่เป็นหัวใจของ
                   ประชาธิปไตยคือ การเลือกตั้งที่เปิดให้มีการแข่งขันอย่างเสรีเพื่อตัดสินว่าใครได้รับความเห็นชอบจาก

                   ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศในการถือครองอ านาจรัฐ กระบวนการเลือกตั้งท าให้ผู้น าและรัฐบาล

                   มีความยึดโยงจากประชาชน ปกครองโดยได้รับความเห็นชอบและฉันทานุมัติจากประชาชน ทั้งนี้
                   การเลือกตั้งจะชอบธรรมและท าหน้าที่เป็นองค์ประกอบหลักของประชาธิปไตยได้ก็ต่อเมื่อมีการให้
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32