Page 22 - b29416_Fulltext
P. 22

20


                          4) ระบบการล าดับคะแนน (Alternative Vote - AV) ระบบนี้พยายามสร้างหลักประกันว่าผู้

                   ชนะคือผู้ที่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาด เขตเลือกตั้งเป็นแบบเขตเดียวคนเดียว โดยผู้สมัครสามารถล าดับ
                   ความชอบของผู้สมัครจากล าดับที่หนึ่งไปถึงล าดับสุดท้าย ผู้ชนะคือผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงล าดับที่

                   หนึ่งจากผู้เลือกตั้งเกินกึ่งหนึ่ง ถ้าในรอบแรกไม่มีใครได้เสียงดังกล่าว ก็ให้ตัดผู้สมัครที่ได้คะแนนที่น้อย

                   ที่สุดออกไป และเกลี่ยคะแนนในบัตรของผู้สมัครคนนั้นไปให้กับผู้สมัครคนอื่นที่ถูกเลือกเป็นล าดับที่
                   สองตามที่ผู้เลือกตั้งระบุไว้จนกว่าจะมีผู้สมัครคนใดคนหนึ่งได้เสียงล าดับที่หนึ่งเกินกึ่งหนึ่ง   ระบบนี้ใช้

                   ในออสเตรเลีย ฟิจิ และปาปัวนิวกินี และใช้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในไอร์แลนด์และบอสเนีย
                   และการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีลอนดอนและซานฟรานซิสโก (Reynolds, Reily, and Ellis 2005,

                   49; Farrell 2001, 55-60)
                          ข้อดี ท าให้ผู้สมัครที่ได้รับเลือกตั้งมีความชอบธรรมมากขึ้น เพราะมาจากเสียงข้างมาก

                   เด็ดขาด นอกจากนั้น ระบบนี้ยังเอื้อให้พรรคการเมืองมีลักษณะไม่สุดโต่ง พยายามสร้างนโยบายที่

                   ตอบสนองประชากรอย่างกว้างขวางที่สุด เพราะการชนะเลือกตั้งไม่ใช่ได้เสียงจากผู้สนับสนุนหลักของ
                   พรรค แต่ยังต้องอาศัยคะแนนเสียงจากผู้สนับสนุนพรรคการเมืองอื่น (ในกรณีที่มีการนับคะแนนรอบ

                   สอง) ซึ่งจะท าให้มีการเชื่อมประสานและร่วมมือกันระหว่างพรรคการเมืองด้วย

                          มีกลุ่มนักวิชาการกลุ่มหนึ่งเสนอให้น าระบบเลือกตั้งนี้มาใช้ในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกของไทย
                   เพราะจะท าให้วุฒิสมาชิกมาจากเสียงข้างมากในเขตเลือกตั้งจริงๆ และเป็นผู้ที่มีนโยบายตอบสนองคน

                   ส่วนมากในเขตเลือกตั้งมากกว่าที่จะตอบสนองคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง (สมเกียรติ, วรเจตน์, สิริพรรณ,
                   ปกป้อง 2550; สิริพรรณ 2550)

                          ข้อเสีย มีความยุ่งยากซับซ้อนในการนับคะแนน
                          ตัวอย่าง ปาปัวนิวกินี เอามาใช้ในการบรรเทาปัญหาความหลากหลายทางกลุ่มชาติพันธุ์

                          5) ระบบการนับคะแนนสองรอบ (Two-Round System -TRS) ใช้หลักการเช่นเดียวกับ

                   ระบบที่ 4 กล่าวคือ ถ้าการแข่งขันในรอบแรกไม่มีผู้สมัครคนใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาด (เกิน 50%)
                   ต้องมีการจัดการเลือกตั้งรอบสอง ซึ่งสามารถจัดได้สองแบบ คือ เอาเฉพาะผู้สมัครที่ได้เสียงอันดับที่

                   หนึ่งและสองจากรอบแรกมาแข่งขันกัน หรือผู้สมัครมากกว่าสองรายสามารถแข่งขันกันในรอบที่สอง
                   โดยใครได้เสียงมากที่สุดก็เป็นผู้ชนะไป แม้ว่าจะไม่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งก็ตาม

                          ตัวอย่างประเทศที่ใช้คือ คีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan) ซึ่งเป็นอดีตประเทศสมาชิกในเครือ

                   สหภาพโซเวียต
                       ข)  ระบบสัดส่วน (proportional representation)

                          ต่างจากระบบเสียงข้างมากที่เน้นเรื่องความพร้อมรับผิดและเสถียรภาพ ระบบสัดส่วนเน้นที่
                   จะบรรลุเป้าหมายความเป็นสัดส่วนระหว่างคะแนนเสียงกับที่นั่งเป็นส าคัญ

                          หลักการส าคัญของระบบนี้คือ การลดความต่างระหว่างจ านวนคะแนนการเลือกระดับชาติ

                   ทั้งหมดตั้งที่พรรคการเมืองหนึ่งได้รับกับจ านวนที่นั่งในสภาที่พรรคนั้นได้รับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าพรรค
                   การเมืองได้คะแนนเสียงรวมกันทั้งหมด 40% ของจ านวนผู้มาเลือกตั้งทั้งหมด พรรคนั้นควรได้จ านวน
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27