Page 20 - b29416_Fulltext
P. 20

18


                   ผู้แทนได้หนึ่งคนไปจนถึงเขตเลือกตั้งใหญ่ที่มีผู้แทนหลายสิบคน สอง โครงสร้างของการลงคะแนน

                   (ballot structure) ซึ่งหมายถึงแบบแผนในการลงคะแนนของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งมีสองรูปแบบหลัก
                   คือ แบบที่ผู้ใช้สิทธิสามารถจัดล าดับความชอบของผู้สมัครจากมากไปหาน้อย (ordinal ballots) กับ

                   แบบที่ไม่สามารถจัดล าดับได้ มีโอกาสแค่เลือกคนในคนหนึ่งที่ชอบมากที่สุดเท่านั้น (categorical

                   ballots) และองค์ประกอบสุดท้ายคือ สูตรในการนับคะแนน (electoral formula) ซึ่งเป็นตัวก าหนด
                   วิธีการแปลงคะแนนเสียงไปเป็นจ านวนที่นั่ง สูตรหรือวิธีการดังกล่าวอาจแบ่งได้เป็นสามวิธีหลัก

                   ด้วยกันคือ แบบเสียงข้างมากธรรมดา (plurality) ซึ่งผู้ชนะแค่ได้เสียงข้างมากแต่ไม่จ าเป็นต้องเกิน
                   กึ่งหนึ่ง แบบเสียงข้างมากเด็ดขาด (majority) ซึ่งผู้ชนะต้องได้เสียงข้างมากและเกินกึ่งหนึ่งด้วย และ

                   แบบสัดส่วน (proportional) ซึ่งกระจายที่นั่งให้ตามคะแนนเสียงที่ได้รับตามสัดส่วน โดยพยายาม
                   ไม่ให้คะแนนของคนที่แพ้เสียไปโดยไม่ถูกนับ วิธีการนับแบบสัดส่วนนี้มีมาตรการแตกต่างหลากหลาย

                   กันออกไป ซึ่งเราจะได้อภิปรายในรายละเอียดต่อไปข้างหน้าเมื่อพิจารณาระบบเลือกตั้งแต่ละแบบ

                          ณ ปัจจุบัน ระบบการเลือกตั้งที่ใช้อยู่ทั่วโลกในปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
                                                                            8
                   ใหญ่ๆ คือ ก) ระบบเสียงข้างมาก ข) ระบบสัดส่วน และ ค) ระบบผสม
                       ก)  ระบบเสียงข้างมาก (plurality/majority)

                          ระบบนี้เน้นที่จะบรรลุเป้าหมายความพร้อมรับผิดของผู้แทนต่อผู้ลงคะแนน และเสถียรภาพ
                   ของรัฐบาลเป็นส าคัญ

                          ลักษณะเด่นของระบบนี้คือ มักจะนิยมใช้เขตเลือกตั้งแบบเขตเดียวคนเดียว แต่ภายใต้ระบบ
                   นี้มีวิธีการนับคะแนนและการแปลงคะแนนที่ได้ไปสู่จ านวนที่นั่งหลายแบบด้วยกัน ระบบนี้แบ่ง

                   ออกเป็น 5 ระบบย่อยด้วยกัน คือ First Past the Post, Block Vote, Party Block Vote,
                   Alternative Vote, and Two-Round System (ดูประกอบใน Reilly 2001, 15-17)

                          1) ระบบเสียงข้างมากแบบไม่เด็ดขาด (First Past The Post –FPTP หรือบางต าราใช้ชื่อ

                   เรียกต่างกันออกไปในนามว่า Single Member Plurality- SMP) เป็นระบบที่ง่ายและพื้นฐานที่สุด
                   ระบบนี้ใช้เขตเลือกตั้งแบบเขตเดียวคนเดียว ผู้ชนะคือผู้ที่ได้เสียงมากที่สุดโดยไม่จ าเป็นต้องเป็นเสียง

                   ข้างมากแบบสมบูรณ์ ระบบนี้ผู้สมัครมักจะเลือกตัวบุคคลมากกว่าเลือกพรรค ประเทศที่ใช้ระบบนี้
                   ได้แก่ สหราชอาณาจักร อินเดีย แคนาดา สหรัฐฯ บังคลาเทศ เนปาล และประเทศที่เคยเป็น

                   อาณานิคมของอังกฤษ (นิวซีแลนด์และแอฟริกาใต้ซึ่งเคยใช้ระบบนี้ได้เลิกใช้แล้วตั้งแต่ทศวรรษ 1990)

                          ข้อดี ง่าย ไม่ซับซ้อน สร้างเสถียรภาพแก่รัฐบาลและระบบการเมือง และท าให้มีความผูกพัน
                   ระหว่างผู้สมัครกับเขตเลือกตั้ง (geographical accountability) ระบบนี้ท าให้เกิดระบบพรรค

                   การเมืองเสียงข้างมากสองพรรคใหญ่ซึ่งท าให้การเมืองมีเสถียรภาพ ระบบนี้ยังมักท าให้เกิดระบบ
                   รัฐบาลพรรคเดียว เพราะเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคใหญ่ที่สุด (เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะพบว่าพรรค

                   ใหญ่ที่สุดได้จ านวนที่นั่งมากกว่าสัดส่วนคะแนนเสียงที่ตนได้ เช่น ได้คะแนนเสียงคิดเป็น 40% แต่ได้ที่




                   8  ประมวลจาก Reynolds, Reily, and Ellis 2005; Farrell 2001; Norris 2004; Horowitz 2003; Gallagher and Mitchell 2005.
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25