Page 15 - b29416_Fulltext
P. 15

13


                          ทั้งนี้ แนวโน้มความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วโลกต่อการปฏิรูประบบการเลือกตั้งในระยะหลัง

                   มีกระแสเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1993 ที่มีการท าประชามติในอิตาลี ซึ่งน าไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบการ
                   เลือกตั้งจากระบบเสียงข้างมาก (plurality/majority) ไปเป็นระบบผสม แนวโน้มที่เกิดขึ้นหลังจาก

                   นั้นในอีก 26 ประเทศทั่วโลก (ดูใน Reynolds, Reily, and Ellis 2005, 24) มีลักษณะคล้ายคลึงกับ

                   การปฏิรูปในอิตาลี คือ การเปลี่ยนระบบเลือกตั้งไปสู่ระบบสัดส่วนมากขึ้น ไม่ว่าจะโดยการเพิ่มที่นั่ง
                   สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากระบบสัดส่วนให้มากขึ้น หรือไม่ก็เปลี่ยนจากระบบเสียงข้างมากไป

                   เป็นระบบสัดส่วนเต็มรูป
                           นอกจากที่มาของระบบการเลือกตั้งที่ใช้ในประเทศหนึ่งๆ จะมาได้จากหลายทางและ

                   หลายเหตุปัจจัยแล้ว ผลกระทบของการเลือกใช้ระบบเลือกตั้งแบบใดแบบหนึ่งก็อาจจะแตกต่างกันไป
                   ผลลัพธ์อาจจะไม่ตรงกับที่ผู้ร่างตั้งใจไว้หรือคาดการณ์ไว้ อาจจะมีผลกระทบบางประการที่นอกเหนือ

                   การคาดคิด และอาจจะส่งผลร้ายแรงในระยะยาว และในหลายกรณี ผลประโยชน์ทางการเมือง

                   ระยะสั้นของชนชั้นน าทางการเมืองเข้ามามีอิทธิพลต่อการก าหนดรูปแบบและระบบการเลือกตั้ง
                   มากกว่าการมองการณ์ไกลถึงผลกระทบที่จะตามมาในระยะยาว ผลการวิจัยพบว่า ในบรรดาสถาบัน

                   การเมืองทั้งหลาย ระบบเลือกตั้งเปลี่ยนง่ายที่สุดและถูกบิดเบือนเพื่อเอาไปรับใช้ผลประโยชน์ของชน

                   ชั้นน าบางกลุ่มได้ง่ายที่สุด (Horowitz 1997, 2003)
                          นอกจากนี้ พบว่าระบบเลือกตั้งแบบหนึ่งอาจจะส่งผลไม่เหมือนกันในทุกประเทศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่

                   กับบริบททางสังคมและการเมืองของประเทศนั้นๆ ระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนอาจส่งผลให้เกิดรัฐบาล
                   ผสมในหลายประเทศ แต่ได้หมายความว่ามันเป็นกฎเกณฑ์ตายตัวที่จะเกิดขึ้นในทุกประเทศ (เช่นใน

                   แอฟริกาใต้ที่ระบบสัดส่วนกลับสร้างให้เกิดรัฐบาลพรรคเดียว) เพราะมีปัจจัยอย่างอื่นมาก าหนดด้วย
                   ดังนั้นเราจึงต้องเผื่อใจไว้เสมอถึงผลกระทบที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าในการน าระบบเลือกตั้งแบบ

                   หนึ่งมาใช้

                          ประเด็นส าคัญที่ต้องตระหนักคือ การออกแบบระบบการเลือกตั้งไม่เคยเกิดขึ้นในสุญญากาศ
                   แต่เกิดขึ้นภายใต้การต่อสู่ช่วงชิงอ านาจทางการเมือง และเกิดขึ้นภายใต้ระบบการเลือกตั้งแบบเดิมที่

                   เคยด ารงอยู่ก่อนหน้าเป็นตัวเปรียบเทียบ ค าถามส าคัญอย่างยิ่งคือ ใครเป็นคนออกแบบ
                   และกระบวนการ ขั้นตอน และกลไกในการออกแบบเป็นอย่างไร การออกแบบสถาบันการเมือง

                   เป็นเรื่องของกระบวนการทางการเมืองที่มีการต่อสู้แข่งขันกันระหว่างกลุ่มต่างๆ ในสังคมที่มีอ านาจ

                   ไม่เท่าเทียมกัน ที่เราต้องสนใจเรื่องนี้เพราะบทเรียนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกชี้ให้เห็นว่าการออกแบบ
                   ความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันทางการเมืองที่ต่างกันส่งผลกระทบที่ส าคัญต่อคุณภาพของการเมือง

                   ในสังคม  ระบบเลือกตั้งเป็นหนึ่งในสถาบันการเมืองที่ส าคัญในการก าหนดความสัมพันธ์ทางอ านาจ
                   มันอาจถูกออกแบบเพื่อสะท้อนความเป็นตัวแทนของภูมิภาคหรือท้องถิ่นให้มีเสียงในระบอบการเมือง

                   หรือถูกออกแบบเพื่อลดทอนลักษณะภูมิภาคนิยม มันสามารถออกแบบเพื่อสนับสนุนส่งเสริมพรรค

                   การเมืองที่เข้มแข็งหรือจงใจท าให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ท าให้เกิดมุ้งหรือกลุ่มการเมืองย่อยในพรรค
                   การเมือง หรือท าให้นักการเมืองมีอ านาจต่อรองเหนือพรรคการเมือง มันอาจถูกออกแบบเพื่อส่งเสริม
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20