Page 14 - b29416_Fulltext
P. 14
12
สอง มาจากกระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างคู่ขัดแย้งเพื่อยุติสงครามหรือการแตกแยก
ในประเทศ (เลโซโท เลบานอน แอฟริกาใต้)
สาม ก าหนดมาจากคณะกรรมการหรือมหาอ านาจต่างชาติในสถานการณ์หลังการฟื้นฟู
ประเทศหลังสถานการณ์ความขัดแย้ง (อิรัก อัฟกานิสถาน)
สี่ เกิดจากการเปลี่ยนผ่านจากระบอบเผด็จการมาสู่ระบอบประชาธิปไตย หรือระบอบ
ประชาธิปไตยไปสู่ระบอบเผด็จการ (ซึ่งรัฐบาลแต่งตั้งหลังการยึดอ านาจไม่ว่าประเทศใดก็ตามมักจะ
จัดท ารัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับเพื่อจัดวางโครงสร้างอ านาจแบบใหม่)
ห้า มีการตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาเพื่อเสนอและจัดท าร่างระบบเลือกตั้งใหม่ (อังกฤษ
มัวรีเตียส) บางครั้งคณะกรรมการนี้เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการจัดท าร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
(ฟิจิ) โดยร่างข้อเสนอนี้บางกรณีถูกน าเข้าสู่รัฐสภาเพื่อลงมติ หรือบางกรณีเป็นการลงประชามติโดย
ประชาชน
หก เกิดจากการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางจากประชาชน โดยการจัดตั้งสภาประชาชน-
พลเมือง ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อมาประชุมหารือเพื่อหารูปแบบการเลือกตั้งที่ประชาชนคิดว่า
เหมาะสมที่สุด (กรณีของจังหวัดบริติช-โคลัมเบียในแคนาดา)
ในอดีตที่ผ่านมา ระบบการเลือกตั้งในสังคมก าลังพัฒนาทั้งหลายมักจะถูกเลือกขึ้นมาโดย
อุบัติเหตุ มากกว่าถูกออกแบบมาอย่างดีหรืออย่างตั้งใจโดยการมีส่วนร่วมของพลเมืองเจ้าของ
ประเทศ โดยอาจจะมาจากสถานการณ์ ณ ขณะนั้นก าหนดให้เป็นไป หรือมาจากแนวโน้มในอดีตที่เคย
เป็นมา มาจากผลผลิตทางประวัติศาสตร์ เช่น รับระบบการเลือกตั้งมาจากอดีตเจ้าอาณานิคม หรือได้
แนวคิดมาจากรูปแบบที่ใช้อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังมานี้ นับตั้งแต่ทศวรรษ
2530 เป็นต้นมา เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงคือ เริ่มมีการตระหนักว่าระบบการเลือกตั้งที่ตกทอดมา
จากอดีตอาจจะไม่เหมาะสมกับโครงสร้างของสังคม และสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป
จึงสมควรที่จะถูกปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ (Reilly and Reynolds
1999, 24) แม้แต่ประเทศที่มีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของระบอบประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน
แล้ว เช่น ในทวีปยุโรป (ในอิตาลี ฝรั่งเศส อังกฤษ นิวซีแลนด์ ก็ยังมีการทบทวนความเหมาะสมของ
ระบบการเลือกตั้งเป็นระยะ โดยแรงผลักดันของการเปลี่ยนแปลงหรือปฏิรูประบบเลือกตั้งที่ส าคัญ
มักจะมาจากการเกิดวิกฤตทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เช่น กรณีปัญหาคอร์รัปชันในหมู่
นักการเมืองญี่ปุ่นและอิตาลีน าไปสู่ความเสื่อมศรัทธาของประชาชนต่อนักการเมืองและ
ระบบการเมืองโดยรวม ท้ายที่สุดน าไปสู่การปฏิรูประบอบการเลือกตั้งในทั้งสองประเทศ โดยการ
ผลักดันจากประชาชนที่ตื่นตัวทางการเมือง (Norris 1995) โดยเป้าหมายของการออกแบบระบบ
การเลือกตั้งใหม่ คือ การสร้างระบบการเลือกตั้งที่มั่นคงแข็งแรงพอต่อการสร้างระบอบประชาธิปไตย
ที่มีเสถียรภาพ แต่ก็ยืดหยุ่นพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจสังคม
ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา (Bastian and Luckham 2003)