Page 40 - b29416_Fulltext
P. 40
38
ไม่ปรกตินักในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาที่มักจะไม่มีการจ ากัดอายุการด ารงต าแหน่งของ
ประมุขฝ่ายบริหาร ทั้งนี้ ส.ส.ที่รับต าแหน่งรัฐมนตรีก็มิต้องลาออกจากต าแหน่งส.ส. เมื่อมารับ
ต าแหน่งรัฐมนตรี ท าให้ต้นทุนในการแตกหักกับนายกฯ หรือผลกระทบจากการท้าทาย ขัดขืน ดื้อดึง
ต่ออ านาจของนายกฯ ต่ าลงเมื่อเทียบกับรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 ส่วนข้อก าหนดเกี่ยวกับ
การสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน แม้จะยังคงอยู่ แต่ก็มีข้อยกเว้นว่าหากมีการยุบสภา
ฉุกเฉินหรือมีการยุบสภาก่อนก าหนด ผู้สมัครสามารถมีระยะเวลาในการสังกัดพรรคการเมืองใดๆ
เพียงแค่ 30 วันได้ ขณะที่กฎหมายก าหนดให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45-60 วันหลังการยุบสภา ท าให้
นักการเมืองย้ายพรรคได้สะดวกมากขึ้น ฉะนั้นอ านาจของพรรคในการควบคุมวินัยของสมาชิกพรรค
จึงน้อยลง (รังสรรค์ 2550)
หากพิจารณาเปรียบเทียบแล้ว นับตั้งแต่ใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 พบว่าประเทศไทย
มีแนวโน้มพัฒนาไปสู่ระบบที่พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากความพยายามของ
ฝ่ายปฏิรูปการเมืองที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พรรคการเมือง และลดอิทธิพลของมุ้งการเมือง
รวมถึงแก้ปัญหาพรรคการเมืองที่กระจัดกระจายจนไม่เป็นเอกภาพ น่าเสียดายที่รัฐธรรมนูญฉบับปี
พ.ศ. 2550 ของไทยได้ท าลายความเข้มแข็งของระบบพรรคการเมือง
แม้ว่าระบบเลือกตั้งจะเปลี่ยนไปจากรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 มาสู่ฉบับปี พ.ศ. 2550
แต่ในภาพรวม ผู้ร่างรัฐธรรมนูญก็ยังคงระบบเลือกตั้งแบบผสมที่มีผู้แทน 2 ประเภท ยังคงรักษาระบบ
บัญชีรายชื่อไว้ และประชาชนยังได้รับสิทธิที่จะลงคะแนนในบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โดยบัตรเลือกตั้งแต่ละ
ใบใช้เลือกผู้แทนคนละแบบ และค านวณคะแนนแยกจากกัน (ต่อมาจะถูกเปลี่ยนในรัฐธรรมนูญฉบับปี
พ.ศ. 2560 กลายเป็นบัตรใบเดียว) ซึ่งถือว่ายังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคนไปสู่
ระบบใหม่
ระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ถูกแก้ไขเพิ่มเติมภายใต้รัฐบาลผสมที่น าโดยพรรค
ประชาธิปัตย์สมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผลจากการต่อรองทางการเมือง
ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งต้องการเปลี่ยนระบบบัญชีรายชื่อกลับไปใช้เขตเลือกตั้งทั้งประเทศแทน
กลุ่มจังหวัดรวมทั้งต้องการเพิ่มจ านวนผู้แทนในระบบบัญชีรายชื่อให้มากขึ้น เพราะพรรคประชาธิปัตย์
ท าผลการเลือกตั้งได้ดีในระบบบัญชีรายชื่อ ในขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทยต้องการ
เปลี่ยนการแข่งขันในระบบเขตกลับไปสู่เขตเดียวคนเดียวแทนที่จะเป็นระบบเขตเดียวหลายคนแบบ
ระบบบล็อกโหวต เพราะพรรคขนาดกลางแข่งขันได้ดีกว่าในเขตเลือกตั้งขนาดเล็ก ท าให้มีการแก้ไข
เพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเปลี่ยนระบบเลือกตั้งดังนี้ ในส่วนส.ส. เขต มีผู้แทนทั้งสิ้น 375 คน โดยแบ่งเขต
เลือกตั้งเป็น 375 เขต แต่ละเขตมี ส.ส. 1 คน ส าหรับส.ส. บัญชีรายชื่อ ใช้ทั้งประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง