Page 41 - b29416_Fulltext
P. 41

39


                   เดียว เป็นระบบบัญชีรายชื่อแบบปิดที่พรรคเป็นคนจัดท า และมีจ านวนผู้แทนในระบบบัญชีรายชื่อ

                               22
                   ทั้งสิ้น 125 คน


                   12. ระบบเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2560: การเมืองของการออกแบบระบบเลือกตั้ง

                          ระบบเลือกตั้งที่ถูกออกแบบในรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2560 ร่างโดยคณะกรรมาธิการ
                   21 คนที่แต่งตั้งโดย คสช. และมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน ซึ่งเป็นระบบเลือกตั้งที่แตกต่างจาก

                   ระบบที่ใช้อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 และ 2550 เพื่อที่จะเข้าใจนัยส าคัญของระบบเลือกตั้ง
                   ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เราจ าเป็นจะต้องมีมุมมองเปรียบเทียบกับระบบเลือกตั้งที่เราใช้อยู่ก่อน

                   และระบบเลือกตั้งที่นานาชาติใช้
                          จากที่ระบุข้างต้นว่าระบบเลือกตั้งในโลกนี้มีอยู่ 3 แบบหลักเท่านั้น คือ ก. ระบบเสียงข้างมาก

                   (majority or plurality system) ข. ระบบสัดส่วน (proportional system) และ ค. ระบบผสม

                   (mixed system) ระบบเสียงข้างมากส่วนใหญ่มีแต่ส.ส. เขต ซึ่งเป็นระบบที่ไทยใช้อยู่ก่อนปี พ.ศ.
                   2540 ซึ่งเมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 ประเทศไทยได้เปลี่ยนมาใช้ระบบเลือกตั้งแบบผสมที่มี

                   ผู้แทน 2 ประเภท (เขตและบัญชีรายชื่อ) และประชาชนมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบในการลงคะแนนดังที่ได้

                   อธิบายไปแล้วข้างต้น ทั้งนี้ตั้งแต่ทศวรรษ 2530 เป็นต้นมา การปฏิรูประบบเลือกตั้งในประเทศ
                   ประชาธิปไตยเกิดใหม่รวมทั้งในประเทศประชาธิปไตยเก่าแก่หลายประเทศหันมานิยมระบบเลือกตั้ง

                   แบบผสมจนกลายเป็นแนวโน้มทั่วโลก เพราะถือว่าตอบโจทย์ครบเครื่อง คือ มีทั้งผู้แทนเขตดูแล
                   ประชาชนและนโยบายจุลภาคระดับชุมชน และผู้แทนบัญชีรายชื่อดูแลนโยบายมหภาคระดับประเทศ

                   นอกจากนั้นระบบนี้ยังช่วยสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและตอบโจทย์เรื่องความยุติธรรมของคะแนน
                   ระหว่างคะแนนเสียงและที่นั่งที่แต่ละพรรคได้รับไปพร้อมกัน

                          ระบบเลือกตั้งที่ออกแบบไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 จึงถือว่าด าเนินมาถูกทางแล้ว

                   เมื่อเทียบกับพัฒนาการระดับโลก ทั้งยังตอบโจทย์ปัญหาการเมืองไทยที่ด ารงอยู่มาเนิ่นนานคือปัญหา
                   ความไร้เสถียรภาพ ผู้ร่างรัฐธรรมนูญน าระบบผสมแบบเสียงข้างมากมาใช้ (เรียกว่า mixed member

                   majoritarian system–MMM) โดยมีผู้แทน 2 ประเภททั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์
                   โดยค านวณคะแนนแยกจากกัน แก้ปัญหาการเลือกตัวบุคคลและการแข่งขันกันเองภายในพรรค

                   การเมืองที่เป็นผลจากระบบเลือกตั้งแบบเขตเดียวหลายคน (แบบแบ่งเขตเรียงเบอร์) ที่เคยใช้มา

                   เนิ่นนานจนท าให้พรรคการเมืองอ่อนแอ การแข่งขันไม่เน้นนโยบาย และการมีรัฐบาลผสมอายุสั้น
                   ผู้สมัครมุ่งสร้างคะแนนนิยมเฉพาะฐานเสียงเลือกตั้งแคบๆ ของตน และมุ่งสัญญาว่าจะตอบแทน

                   ผลประโยชน์ในลักษณะแรงจูงใจระยะสั้นที่เป็นสิ่งของ เงินทอง โครงการ มากกว่าที่จะมุ่งขายนโยบาย
                   ที่เป็นเอกภาพและตอบสนองปัญหาระดับชาติ ระบบเลือกตั้งแบบผสมตามรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.





                   22  “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2554,” ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 128 ตอน 13ก, 4
                   มีนาคม 2554, น.1 http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2554/A/013/1.PDF
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46