Page 115 - b29256_Fulltext
P. 115

ต่อมาได้มีการบรรจุรายงานของคณะกรรมการพิจรณาจัดตั้งประชาภิบาลดังกล่าวในวาระการประชุมเสนาบดี

            สภาเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2471 โดยประเด็นสำคัญคือการตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาควบคุมการประชาภิบาลซึ่ง
            รัชกาลที่7 และเสนาบดีกระทรวงมหาไทยคือกรมพระนครสวรรค์ฯ ต่างเห็นด้วยกับการตั้งหน่วยงานใหม่ แต่ปัญหานี้

            สุดท้ายแล้วที่ประชุมได้เห็นพ้องต้องกันให้ใช้กรมสาธารรสุขควบคุมดูแลตามเดิมดังความว่า “เรื่องตั้งกรมขึ้นใหม่

            สำหรับควบคุมดำเนินการสุขาภิบาลในหัวเมือง เห็นว่าการที่จะมีกรมขึ้นใหม่ฉะเพาะการคงจะดีกว่าที่รวมอยู่ในกรม
            สาธารณสุขเปนแน่ แต่ทว่าคิดถึงการที่จะไม่ให้เปลืองเงินแล้ว ถึงแม้จะรวมอยู่ก็ไม่เห็นเปนปัญหาขัดข้องอันใด เพราะ

            การรายงานของกรรมการได้ความว่า กรมสาธารณสุขไม่เอาใจใส่ในการงานของสุขาภิบาล ถ้า…มีผู้ที่เอาใจใส่มาทำการ
            แล้ว การงานก็คงจะเดินไปได้ กรมต่างๆ ที่มีงานหลายแผนกรวมอยู่ก็มีอยู่มาก ในกรมสาธารณสุขจะรวมงานของ

                                                  265
            สุขาภิบาลอีกอย่างหนึ่งก็ไม่เห็นจะมากเกินไป”  เนื่องจากการตั้งกรมใหม่จะเป็นการเปลืองงบประมาณมากเกินไปใน
            สถานการณ์ที่การคลังอยู่ในภาวะวิกฤตในช่วงเวลานั้น
                   อย่างไรก็ตามการประชุมพิจารณารายงานของคณะกรรมการฯ ครั้งนี้ของที่ประชุมเสนาบดีสภาอาจจะกล่าวได้

            ว่ายังไม่สามารถหาข้อยุติหรือวางหลักการและแนวทางดำเนินการของประชาภิบาลร่วมกันได้อย่างเอกฉันท์ จึงต้อง
            หาทางดำเนินการต่อมาอีกภายหลัง แต่ครั้งนี้รัชกาลที่ 7 ทรงมีพระราชดํารัสสรุปในการประชุมเสนาบดีสภาว่า



                   การสําเร็จนั้นอยู่กับผู้ที่เปนหัวหน้า (preside) ในที่ประชุม แต่เวลานี้ยังไม่เข้าใจกัน รายงานของกรรมการนี้
                   เปนแต่ฉบับแรก preliminary report เท่านั้น จะต้องทดลองกันต่อไปอีก ถ้าทดลองทําได้ในเมืองใหญ่ๆ เช่น

                   นครปฐมจะดี เพื่อฝึกหัดข้าราชการและประชาชน


                   นอกจากนี้ทรงมีพระราชดําริทิ้งท้ายการประชุมครั้งนั้นว่า


                   ถ้าเรายังมี Municipal Government ไม่ได้ จะมี Parliamentary Government อย่างไรได้ ถ้าหากว่าต่อไป
                   ภายหน้าเราจะต้องมี Parliamentary Government แล้ว เราต้องพยายามจัดให้มี Municipal Government

                   ขึ้นให้ดีก่อน
                             266

                   ควรกล่าวไว้ด้วยว่าบทบาทหน้าที่สำคัญของประชาภิบาลที่พยายามจะจัดขึ้นนี้มีการจัดการเรื่องโรงพยาบาล

            ด้วย ดังความในรายงานประชุมว่า “ข้อที่เสนาบดีกระทรวงพระคลังฯ ทรงเห็นว่าการโรงพยาบาลควรให้ประชาชนทํา

            นั้น กรมพระจันทบุรี ฯ กราบบังคมทูลว่า พระองค์เจ้าศุภโยคหมายความว่า อย่าให้เอาเงินหลวงไปตั้งโรงพยาบาล

            เท่านั้น มีพระราชดํารัสว่า แปลว่าให้สร้างโรงพยาบาลด้วยเงินเรี่ยไรฤาเงินอื่น แล้วให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเปน

            ผู้จัดการ”  ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นตามนโยบายนี้ต่อมาคือโรงพยาบาลที่สร้างโดยองค์กร
                    267





                   265  สจช. ม.ร7 ม/12 รายงานเรื่องประชาภิบาลกับสมุดคู่มือการปกครองสาธารณสุข พ.ศ.2470, หน้า 238.
                   266  สจช. ม.ร7 ม/12 รายงานเรื่องประชาภิบาลกับสมุดคู่มือการปกครองสาธารณสุข พ.ศ.2470, หน้า 238.

                   267  สจช. ม.ร7 ม/12 รายงานเรื่องประชาภิบาลกับสมุดคู่มือการปกครองสาธารณสุข พ.ศ.2470, หน้า 236.
                                                           114
   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120