Page 117 - b29256_Fulltext
P. 117

กล่าวโดยสรุปแล้ว แนวพระราชดำริด้านการปกครองท้องถิ่นของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ผ่านความ

            พยายามจัดตั้งการประชาภิบาลจนสำเร็จออกมาเป็นร่างพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2473 แสดงให้เห็นว่าพระองค์
            ทรงมีพระราชปณิธานในการพยายามจัดตั้งหน่วยการปกครองส่วนท้องถิ่นของรัฐที่เรียกว่าประชาภิบาล/เทศบาลขึ้น

            แทนที่สุขาภิบาลและยังขยายภารกิจเพิ่มเติมใน การบำรุง” บ้านเมืองด้วยการจัดบริการสาธารณะ (public service)

            ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านการแพทย์และการสาธารณสุขที่ต้องการให้ขยายไปยังส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น
            มากขึ้น แต่ประชาภิบาล/เทศบาลดังกล่าวมิอาจบรรลุหน้าที่ของการปกครองท้องถิ่นด้าน “การปกครอง” ที่มีอิสระ

            (autonomy) ในการบริการจัดการกิจการและออกข้อบัญญัติของท้องถิ่น รวมทั้งการมีส่วนร่วมของราษฎรอย่างเสมอ
            ภาคในการกำหนดที่มาของคณะผู้บริหารและออกข้อบัญญัติท้องถิ่นโดยสภาตามกระบวนการประชาธิปไตยได้

            เนื่องจากขณะนั้นสยามยังคงรูปแบบการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่ไม่เอื้อต่อการบรรลุเป้าหมาย

                   270
            ดังกล่าว
                   การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ก่อให้เกิดการจัดวางรูปแบบองค์กรและ

            กลไกของรัฐใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกันกับการปกครองในระบอบรัฐธรรมนูญการตราพระราชบัญญัติระเบียบราชการ
            บริหารแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2476 ถือได้ว่าเป็นกฎหมายสำคัญที่สร้างกลไกการบริหารราชการแผ่นดินขึ้นใหม่

            ด้วยการแบ่งส่วนการบริหารประเทศออกเป็น 3 ส่วน คือ การบริหารราชการส่วนกลาง การบริหารราชการส่วนภูมิภาค

            และการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ซึ่งในส่วนท้องถิ่นนี้นับว่าเกิดขึ้นใหม่ไม่เคยมีมาก่อน และประกาศใช้พระราชบัญญัติ
            จัดระเบียบเทศบาล พ.ศ. 2476 ให้จัดเอารูปแบบของเทศบาลมาใช้เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ทั้งนี้มีเหตุผล
                                                                                               271
            ร่วมสมัยของการจัดระเบียบการปกครองใหม่หมดทั้งองคาพยพของรัฐว่า “เพื่อจัดรูปงานให้เข้าลักษณะการปกครอง

                                                                              272
            อย่างรัฐธรรมนูญ และเพื่อจะให้การบริการราชการแผ่นดินรวบรัดและเร็วยิ่งขึ้น”  ซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบการปกครองที่
            นิยมจัดทำกันในประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้และฝึกฝนการมีส่วนร่วม

            ทางการเมืองตั้งแต่ระดับท้องถิ่นให้สามารถไปมีส่วนร่วมกับระบอบรัฐธรรมนูญที่เป็นระดับชาติได้มีประสิทธิภาพได้
            ต่อไป

                   แนวคิดและแบบอย่างในการร่างกฎหมายและจัดระบบโครงสร้างของเทศบาลภายใต้พระราชบัญญัติจัด

            ระเบียบเทศบาล พ.ศ. 2476 นั้นได้รับอิทธิพลมาจากกฎหมายและรูปแบบจากฝรั่งเศสผ่านแนวความคิดและที่เสนอ
            ผ่านกฎหมายปกครองของปรีดี พนมยงค์ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการร่างกฎหมายจัดระเบียบการปกครองใหม่หลายฉบับ

            หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 รวมทั้งการจัดระเบียบเทศบาลฉบับนี้ด้วย โดยได้ผสมผสานกับอิทธิพล
            ของอังกฤษ และประเทศอาณานิคมใกล้เคียงอย่างสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ผ่านบทบาทของหม่อมเจ้าสกลวรรณากร วรว



                   270  ณัฐพล ใจจริงและศรัญญู เทพสงเคราะห์, พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับแนวพระราชดำริด้านการปกครอง
            ท้องถิ่น, กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า, 2558, หน้า 114.
                   271  สุวัสดี โภชน์พันธุ์, “เทศบาลและผลกระทบต่ออำนาจท้องถิ่น พ.ศ. 2476-2500,” วิทยานิพนธ์อักษรศาสตร มหาบัณฑิต

            สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2543,  หน้า 48.
                   272  รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยที่ 1 วิสามัญ ครั้งที่ 26/2476 วันที่ 23 พฤศจิกายน 2476, หน้า 684 และ 686.
            อ้างจาก สุวัสดี โภชน์พันธุ์, “เทศบาลและผลกระทบต่ออำนาจท้องถิ่น พ.ศ. 2476-2500,” วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

            สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2543,  หน้า 49.
                                                           116
   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122