Page 119 - b29256_Fulltext
P. 119
ดำเนินการ เพื่อประโยชน์ท้องถิ่นซึ่งจะเห็นได้ในหลายโรงพยาบาลในสมัยรัชกาลที่ 7 แต่มักจะขาดทุนดำเนินงานอย่าง
ต่อเนื่องจึงไม่มีประสิทธิภาพต่อการดูแลรักษาสุขภาพนัก
4.2.2 การสร้างโรงพยาบาลหัวเมือง
หลังมีนโยบายขยายการจัดตั้งสุขาภิบาลหลังทดลองจัดตั้งสุขาภิบาลตำบลท่าฉลอมขึ้นได้ผลดี และได้มีการ
ขยายลักษณะการปกครองท้องถิ่นด้วยเทศบาลเกิดขึ้น และให้กิจการการแพทย์รวมอยู่ในสุขาภิบาลซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ
การสร้างโรงพยาบาลของสุขาภิบาลขึ้นด้วยการเรี่ยไรเงินจากคนในท้องถิ่น ทำให้เกิดนโยบายขยายตัวของโรงพยาบาล
ไปหัวเมืองด้วยการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในท้องถิ่นด้วยการเรี่ยไรเงินมาสร้างโรงพยาบาลประจำเมืองด้วยให้สุขาภิบาล
เป็นเจ้าของบริหารจัดการ
การสร้างโรงพยาบาลในความหมายของทศวรรษ 2450-2470 นั้น ไม่มีภาพลักษณ์เป็นสถานที่บำบัดดูแลรักษา
โรคเช่นปัจจุบัน แต่มีลักษณะเป็นเหมือนที่พักหมอ เก็บรักษาและจ่ายยาแก่คนไข้เป็นหลัก ไม่ได้มีความหมายของการ
รักษาโรคแบบรับคนไข้เอาไว้ดูแลในโรงพยาบาล หรือการรักษาผ่าตัดบาดแผลซึ่งจะจัดตั้งแยกออกไปและต้องมีหมอที่
ต้องเรียนแบบแผนตะวันตกที่ชำนาญมาเป็นผู้ประกอบโรคศิลป์ และไม่ได้รับเอาผู้ป่วยโรคระบาดเข้ารักษาอย่างเป็น
ปกติดังที่เป็นอยู่เช่นปัจจุบันแต่อย่างใด ดังจะเห็นจากจำนวนของผู้รับการรักษาในโรงพยาบาลในบทที่ 2 ตารางที่ 3 (ดู
หน้า 36) ซึ่งปรากฏว่ามีการรับคนรักษาในโรงพยาบาลน้อยมากถ้าเทียบกับการตั้งโรงพยาบาลในท้องที่ที่มีประชากร
หนาแน่นก็ตาม
นโยบายการสร้างโรงพยาบาลในหัวเมืองของรัฐบาลสยามที่ส่วนกลางยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด แม้
เมื่อได้จัดตั้งกรมสาธารณสุขขึ้นในกระทรวงมหาดไทยในปี พ.ศ. 2461 ขึ้นมารับผิดชอบหลักดูแลสุขภาพประชาชนทั่ว
ราชอาณาจักรแล้วก็ตาม ดังปรากฏว่าในเอกสารโครงการตั้งกรมสาธารณสุข ซึ่งให้รายละเอียดและคำอธิบายถึง
ความสำคัญและจำเป็นที่ต้องจัดให้มีบริการสาธารณสุขจากรัฐบาลขึ้นให้ครอบคลุมทั้งประเทศที่เรียกว่างานของกรม
ล้วน แต่ปรากฏว่ามีงานนอกกรมแต่กรมมีหน้าที่แนะนำ คือ การบำบัดโรคคือการรักษาพยาบาลคนเจ็บไข้และการ
สุขาภิบาลทั่วไปในท้องที่ โดยอธิบายงานของกรมล้วนคือที่ได้รับงบประมาณไปดำเนินการโดยตรง ส่วนงานของท้องที่
นั้นให้หน่วยงานและบุคคลในท้องที่นั้นรับผิดชอบดูแลกันเองแม้แต่เรื่องเงินประมาณก็ต้องจัดหากันเอง ซึ่งกิจการสร้าง
สถานบำบัดโรคหรือโรงพยาบาลที่ต้องดูแลรักษาพยาบาลคนป่วยนั้นก็ให้ท้องที่หรือสุขาภิบาลรับผิดชอบจัดสร้างขึ้นเอง
จากเงินที่เรี่ยไรในท้องที่ไม่ใช่งบประมาณจากรัฐบาล ดังความว่า
การสาธารณสุขซึ่งยังไม่ได้กะไว้ในโครงการนี้ และซึ่งยังไม่เกี่ยวด้วยพระราชอาณาเขตสยามโดยทั่วไป ด้วยเป็น
การสำคัญสำหรับท้องที่โดยเฉพาะ จึงควรให้ผู้ปกครองท้องที่และกรรมการบุราภิบาลเป็นผู้ทำและเป็น
ผู้รับผิดชอบ การเหล่านี้มีบางประเภทที่สำคัญและจำเป็น ซึ่งตามลัทธินับว่าเป็นคุณฉะเพาะท้องที่ แต่แม้การ
118