Page 124 - b29256_Fulltext
P. 124

- พ.ศ. 2479 สร้างโรงพยาบาลขนาดกลาง 3 แห่ง (ขอนแก่น/ นครศรีธรรมราช/ ร้อยเอ็ด) ขนาดเล็ก

                   13 แห่ง (ลําปาง/ ตราด/ ระยอง/ ชุมพร/ สุราษฎร์ธานี/ อุทัยธานี/ ชัยนาท/ ขุขันธ์/ อุตรดิตถ์/ นครนายก/

                   พิจิตร/ สวรรคโลก/ ลําพูน)

                          - พ.ศ. 2480 สร้างโรงพยาบาลขนาดกลาง 4 แห่ง (พิษณุโลก/ ฉะเชิงเทรา/ แพร่/ ราชบุรี) ขนาดเล็ก

                   13 แห่ง (ลพบุรี/ ประจวบคีรีขันธ์/ สมุทรสงคราม/ สมุทรสาคร/ นครปฐม/ สิงห์บุรี/ สระบุรี /ปทุมธานี /

                   อ่างทอง/เพชรบุรี/ กาญจนบุรี /นนทบุรี /สมุทรปราการ) รวมเป็นเงินที่ต้องจ่ายทั้งหมด 4,051,000 บาท...




                   โครงการขยายโรงพยาบาลไปหัวเมืองของรัฐบาลในระบอบรัฐธรรมนูญให้ครบทุกจังหวัดท้ายที่สุดมาสำเร็จเอา
            เมื่อปี พ.ศ. 2497 ไม่เป็นไปตามแผนเพราะเกิดสงครามโลกครั้ง 2 และเกิดความผันผวนทางการเมืองภายใน

            คณะราษฎรที่ไม่ได้มีเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงการสาธารณสุขและการแพทย์ของประเทศชัดเจนเหมือนรัฐบาล
            คณะราษฎร

                   แต่อย่างไรก็ตามนโยบายสาธารณสุขหลังปฏิวัติ 2475 รัฐต้องดูแลสุขภาพประชาชนให้เป็นพลเมืองที่แข็งแรง

            ของรัฐ โดยกำหนดแผนงานนโยบายสร้างโรงพยาบาลครบทุกจังหวัดเริ่มตั้งแต่ปี 2477 และปีต่อมาเริ่มสร้าง
            โรงพยาบาล “อวดธง” บริเวณชายแดนติดดินแดนอาณานิคม ฝรั่งเศสอย่างเชียงราย หนองคาย และระนองของอังกฤษ

            ก่อนเป็นการชักจูงให้คนหันมาใช้โรงพยาบาลของรัฐไทยแทน จนกระทั่งปี 2497 จึงมีโรงพยาบาลครบทุกจังหวัด

                                                                              290
            ขณะเดียวกันได้เพิ่มสุขศาลาตามอำเภอและตำบลขึ้นปีละประมาณ 60-100 แห่ง
                   นโยบายการสร้างโรงพยาบาลในหัวเมืองหรือเรียกหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองว่าการปกครองส่วนภูมิภาคได้

            แยกกับส่วนท้องถิ่นที่เป็นเทศบาลและสุขาภิบาลอย่างชัดเจน โรงพยาบาลประจำจังหวัดนั้นเป็นของกระทรวง

            สาธารณสุขที่บริหารจัดการผ่านการบริหารส่วนภูมิภาค จึงทำให้เกิดการบังคับบัญชาอย่างชัดเจน มีนโยบายและการ
            บริการอย่างมีประสิทธิภาพทั่วถึง ทำให้การให้บริการบำบัดรักษาในโรงพยาบาลหลัง พ.ศ. 2475 โดยเฉพาะหลังตั้ง

            กระทรวงสาธารณสุขในปี พ.ศ. 2485 ได้กระจายไปยังภูมิภาคทุกจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิผล ส่วนการบริการ
            สถานพยาบาลของการปกครองส่วนท้องถิ่นที่อาศัยการมีส่วนร่วมจากคนในชุมชนก็ยังได้รับการสนับสนุนด้านวิชาการ

            และทรัพยากรจากรัฐบาลอย่างชัดเจนด้วย

                   หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 ได้เกิดการปรับปรุงการบริหารราชการแผ่นดินให้มี 3 ระดับคือ
            ราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ส่งผลให้มีการ

            แบ่งส่วนกรมราชการสาธารณสุขในกระทรวงมหาดไทยใหม่ในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2476 โดยกรมสาธารณสุขแบ่ง
            ส่วนราชการใหม่ทั้งหมด แบ่งเป็นส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นอย่างชัดเจนในบทบาทหน้าที่ด้านการดูแล

            สุขภาพประชาชน โดยในโครงสร้างราชการบริหารส่วนกลางได้แบ่งเป็น 15 กอง ปรากฏว่ากองลำดับที่ 6  คือกอง






                   290  ชาติชาย มุกสง, จากปีศาจสู่เชื้อโรค: ประวัติศาสตร์การแพทย์กับโรคระบาดในสังคมไทย (กรุงเทพฯ: ศิลปวัฒนธรรม,

            2563), หน้า 197.
                                                           123
   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128   129