Page 129 - b29256_Fulltext
P. 129

ได้เป็นพื้นที่ๆ ไป ก่อนจะขยายไปในต่างจังหวัดแล้วปรากฏหลักฐานจำนวนผู้เข้ารับการปลูกฝีเพิ่มขึ้นจำนวนมากทั่ว

            ประเทศต่อมา


                   ถึงแม้จะมีการระดมปลูกฝีกันอย่างมากต่อเนื่องตลอดมา แต่อย่างไรก็ตามอัตราการป่วยและตายด้วยโรค
            ระบาดร้ายแรงจากไข้ทรพิษในประเทศนั้นก็ยังอยู่ในอันดับสอง แม้จะมีจำนวนคนตายลดลงมากแล้วก็ตาม ดังปรากฏว่า

            ในช่วงปีพ.ศ. 2468 -2469 จากรายงานในการแถลงการณ์สาธารณสุขปีที่ 2 เล่ม 2 (พ.ศ. 2468-2469) ได้มีการรายงาน

            การระบาดของโรคอหิวาตกโรค และไข้ทรพิษในเดือนต่างๆ โดยสามารถสรุปได้ว่าไข้ทรพิษถือเป็นโรคที่ระบาดร้ายแรง

            รองลงมาจากโรคอหิวาตกโรค กล่าวคือในปี พ.ศ. 2469 มีอัตราการตายของคนเป็นไข้ทรพิษรองเป็นอันดับสองจากโรค

            อหิวาตกโรค  แต่อัตราตายก็ยังต่ำกว่าไข้จับสั่นที่จำนวนประมาณการแต่ละปีเป็นอัตราที่สูงแต่ตายอย่างช้าๆ จากไข้
                      309
            เรื้อรัง โดยสถิติจากกรมสาธารณสุขที่รวบรวมสถิติผู้เสียชีวิตจากไข้จับสั่นทั่วประเทศ พ.ศ. 2472-2476 มีคนตายด้วยไข้

            จับสั่นเป็นรายปีดังนี้ พ.ศ. 2472/ 41,298 คน พ.ศ.2473/ 40,347 คน พ.ศ. 2474/ 36,494 คน พ.ศ. 2475/ 31,678
                                                       310
            คน พ.ศ. 2476/ 31,335 คน รวมเป็น 181,152 คน  จะเห็นได้ว่าในช่วงไม่กี่ปีหลังการแพร่ระบาดของไข้จับสั่นก็มี
            ผู้เสียชีวิตไปหลายหมื่นคน ยังไม่รวมผู้ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด จนไม่สามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

            อีกจำนวนมาก

                   ในรายงานประจำปีของกรมสาธารณสุขประจำพ.ศ. 2465, 66 และ 67 ได้กล่าวถึงความน่ากลัวของโรคนี้ว่า


                    การที่ไข้จับสั่นเป็นเหตุแห่งความเสียหายและเดือดร้อนอย่างมากมายนั้นเคยมีตัวอย่างมามากครั้งแล้ว เช่นใน

                   หมู่บ้านเขาดิน จังหวัดราชบุรีเป็นต้น ชาวบ้านมากมายได้ป่วยลงเกือบพร้อมกัน ส่วนผู้ที่ไม่ป่วยก็ขยาดหลบหนี

                   ไปเสีย โรคนี้เป็นชะนิดร้ายแรง จึงได้ทำให้ผู้ป่วยหมดความสามารถ จนถึงกับเด็กต้องอดเข้าหรือไม่มีใครเลี้ยงดู

                   และศพผู้ที่ตายก็ต้องถูกละทิ้งไม่มีใครฝัง เข้าในท้องนาซึ่งถึงเวลาเกี่ยวเก็บได้แล้วนั้น ก็ศูนย์หายไปโดยถูกนก

                   และสัตว์อื่นๆ เบียดเบียน ลักขณะอาการดังกล่าวนี้มีพนักงานเก็บภาษีผู้หนึ่งไปพบเข้าและนำความมารายงาน

                   ต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายมณฑลเราจึงได้จัดส่งแพทย์และยาควินีน พร้อมด้วยภัณฑะอื่นๆ ออกไปช่วยราษฎรเหล่านั้น
                          311
                   โดยเร็ว”


                   ข้อความข้างต้นแสดงให้เห็นว่าโรคไข้จับสั่นนั้นเป็นปัญหาที่น่าคิดถึง และน่าศึกษาถึงวิธีป้องกันหรือหาหนทาง

            ระงับให้คนตายน้อยลง เพราะมีผลต่อสุขภาพอนามัยและชีวิตของราษฎร ทำให้ราษฎรตายและหนีหายซึ่งทำให้เกิด

            ความเสียหายแก่เศรษฐกิจได้รับการตระหนักและรับรู้แล้วว่าเกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจอย่างมาก จึงเป็นสาเหตุ

            สำคัญของการตั้งกองโรคติดต่อและสถิติขึ้นมารวบรวมตัวเลขคนตายให้ได้ตรงตามความเป็นจริงเพื่อวางแผนด้าน


                   309  แถลงการณ์สาธารณสุข, ปีที่ 2 เล่ม 2 (พ.ศ 2468-2469).
                   310  หลวงพยุงเวชชศาสตร์, “ยุงก้นปล่อง,” จดหมายเหตุทางการแพทย์. 19,4. (2479). หน้า 610.

                   311  “ไข้จับสั่น,” แถลงการณ์สาธารณสุข. 4,4. (2471). หน้า 381-382.
                                                           128
   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134