Page 134 - b29256_Fulltext
P. 134

9 กุมภาพันธ์ เสนาบดีสภาจึงได้แจ้งกลับไปยังกระทรวงยุติธรรมว่าได้แจกจ่ายให้แก่สมาชิกเสนาบดีสภาแล้ว และจะ

                                                           317
            นำเสนอในที่ประชุมเสนาบดีสภาวันที่ 13 กุมภาพันธ์ต่อไป

                   ขณะเดียวกันวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2470 (2471) กระทรวงต่างประเทศได้ทำหนังสือแจ้งต่อมายังราช
            เลขาธิการใจความว่า อัครราชทูตเนเธอแลนด์ได้ทำหนังสือประท้วงคัดค้านการออกพระราชบัญญัติหางน้ำนม เมื่อวันที่

            30 มกราคม พ.ศ. 2470 เนื่องจากว่า หางน้ำนมถือว่าเป็นสินค้าสำคัญของชาตินั้นที่ได้ส่งเข้ามาจำหน่ายยังสยามเป็น

            จำนวนมาก อีกทั้งยังได้แจ้งมาว่า หางน้ำนมนั้นไม่ได้มีอัตรายต่อร่างกายอย่างใดเลย เป็นไปแต่ในทางบำรุงร่างกายทาง

            เดียวเท่านั้น โดยเสนอทางแก้ไขให้เป็นพิเศษว่า ถ้าจะกำหนดให้แจ้งส่วนผสมของน้ำนมชนิดนี้ไว้ที่กระป๋อง หรือทางอื่น

            เพื่อเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ซื้อว่า น้ำนมชนิดนี้ไม่ใช่หัวน้ำนมบริบูรณ์ ดังนั้นก็จะแก้ไขเรื่องนี้ไปได้ และยังได้ชี้ต่อไปอีกว่า

            น้ำนมชนิดนี้มีประโยชน์ในการใช้ในเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น น้ำชา กาแฟ และไอศกรีม ถ้าเกิดห้ามการใช้นมชนิดนี้ก็จะทำ

            ให้สินค้าเครื่องดื่มเหล่านี้มีราคาสูงขึ้นสำหรับคนจน อัครราชทูตจึงได้หวังใจว่า รัฐบาลสยามจะไม่ถึงกับห้ามจำหน่ายไป
            เสียทีเดียว เพราะจะทำให้การค้าของเนเธอแลนด์เสียหายได้ นอกจากนั้นยังได้ทำหนังสืออีกฉบับเป็นกึ่งราชการมา

            ชี้แจงว่า เนเธอแลนด์ไม่ได้ห้ามการจำหน่ายนมชนิดนี้ภายในประเทศอย่างที่หนังสือพิมพ์สยามออบเซอร์เวอร์ลงตีพิมพ์

            เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2470 อย่างไรก็ดีเสนาบดีกระทรวงต่างประเทศ มีความเห็นว่า เห็นชอบด้วยแก่ฝ่ายเรา

            อยู่แล้วว่า มีเหตุผลเพียงพอและสิทธิ์ที่จะทำได้ในการห้ามจำหน่ายหางน้ำนมได้เต็มที่ แม้จะกระทบทางการค้ากับเนเธอ

            แลนด์ก็ตามที แต่ปัญหาอนามัยของชาติก็เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง เสนาบดีกระทรวงต่างประเทศจึงได้ร่างหนังสือตอบอัคร
            ราชทูตเนเธอแลนด์ ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องห้ามการจำหน่ายหางน้ำนมไว้ 1 ฉบับแล้ว จึงส่งมาเรียนเพื่อพระ

            ราชปฏิบัติพร้อมหนังสือราชเลขาธิการนี้ด้วย ซึ่งหากถ้าชอบด้วยพระราชดำริก็จะมีหนังสือตอบไปตามนี้ แต่ถ้าจะทรง

                                                                                                    318
            พระกรุณาโปรดเกล้าให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงประการใด ก็พร้อมจะแก้ไขไปตามกระแสพระราชดำริทุกประการ

                   พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้ให้ราชเลขาธิการ ทำหนังสือลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ตอบกลับด้วย

            ลายพระหัตถ์พร้อมลงพระปรมาภิไธย ประชาธิปก ความว่า “ท่านตอบนั้นเห็นว่าดีแล้ว แต่ควรจะเสนอเสนาบดีสภาเสีย

            ด้วย เพราะจะพิจารณาเรื่องพระราชบัญญัติอยู่แล้ว”

                   จึงได้มีการนำเข้าป็นวาระในการประชุมเสนาบดีประจำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2470 โดยมีการสรุปออกมา

            เป็นรายงานการประชุมดังต่อไปนี้










                   317  สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ, ม.2/16(ม.-ร7ม/4) เรื่อง พระราขบัญญัติหางน้ำนม (23 มีนาคม พ.ศ. 2469 – 20

            กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2470).
                   318  สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ, ม.2/16(ม.-ร7ม/4) เรื่อง พระราขบัญญัติหางน้ำนม (23 มีนาคม พ.ศ. 2469 – 20

            กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2470).
                                                           133
   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139