Page 121 - b29256_Fulltext
P. 121

โดยมากมักพึ่งการแพทย์แผนโบราณและการซื้อยารักษาดูแลสุขภาพกันเอง ยังไม่นิยมรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันมีผู้ใช้ยา

                                                      277
            แผนปัจจุบันและรักษาแผนตะวันตกในอัตราต่ำมาก

                   การสร้างโรงพยาบาลในหัวเมือง งบประมาณการลงทุนด้านการแพทย์และการสาธารณสุข โดยเฉพาะการสร้าง
            โรงพยาบาลและการดำเนินงานในภูมิภาคจากหลักฐานชั้นต้นนั้น ในประเด็นนี้ต้องการให้เห็นถึงรายละเอียดการสร้าง

            และการดำเนินงานของโรงพยาบาลหัวเมืองที่ต้องอาศัยเงินเรี่ยไรจากคนในท้องถิ่นนั้นเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลน

            งบประมาณที่รัฐบาลเผชิญอยู่จากเศรษฐกิจตกต่ำและปัญหาการคลังของรัฐบาล จนส่งผลกระทบต่อการให้บริการ

            สุขภาพต่อประชาชนในหัวเมืองพอควร ดังรายละเอียดต่อไปนี้


                   หลังรัชกาลที่ 7 ขึ้น ครองราชย์ในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 ได้เพียง 5 วันคือในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.
            2468 โอสถสภาได้เปิดเรือนคนไข้รับรักษาที่จังหวัดนครสวรรค์ (โรงพยาบาลนครสวรรค์) ต่อมาวันที่ 23 พฤษภาคม

            พ.ศ. 2469 เปิดร้านจําหน่ายเวชภัณฑ์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครสวรรค์ มีใบบอกที่ 127/5724 วันที่ 10 กรกฎาคม

            พ.ศ. 2469 ว่า สุขาภิบาลเมืองนครสวรรค์ได้จัดการปลูกสร้างร้านจําหน่ายเวชภัณฑ์ 1 หลัง และเรือนคนไข้ 1 หลัง โดย
            ใช้จ่ายเงินเรี่ยไรจากผู้จำหน่ายฝิ่น พ.ศ. 2462 เป็นจํานวนเงิน 4,000 บาท โดยลงท้ายจดหมายว่าบรรดาผู้บริจาคทรัพย์

            ขอพระราชทานถวายพระราชกุศล   278
                   ต่อมาในปี พ.ศ. 2469 ตั้งโรงพยาบาลมณฑลปัตตานีวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2469 สมุหเทศาภิบาลมณฑล

            ปัตตานีมีใบบอกที่ 44/1757 ว่า มหาเสวกโท หม่อมเจ้าสฤษดิเดช สมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ได้ส่งเงิน 6,000 บาท

            ของพระยารัษฎาธิราชภักดีแห่งเมืองปีนังมาช่วยบํารุงโรงพยาบาลมณฑลปัตตานีที่กําลังก่อสร้างอยู่ ผู้บริจาคทรัพย์ขอ
                           279
            ถวายพระราชกุศล   ขณะที่ในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469 ตั้งโรงพยาบาลจังหวัดสุพรรณบุรี สมุหเทศาภิบาล
            มณฑลนครไชยศรีมีใบบอกที่ 263/3734 ว่า มหาอํามาตย์นายก เจ้าพระยายมราช ได้จัดการสร้างโรงพยาบาลขึ้น 1

            หลังที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นตึก 2 ชั้น มีห้องชั้นบน 9 ห้อง ชั้นล่าง 11 ห้อง พร้อมทั้งเครื่องใช้และเครื่องมือผ่าตัด แล้ว
            มอบให้อยู่ในความปกครองของสุขาภิบาลเมืองสุพรรณบุรีตลอดไป กับให้เงินบำรุงอีกเดือนละ 100 บาทตั้งแต่เดือน

            พฤศจิกายน 2469 เป็นต้นไป โดยกระทรวงมหาดไทยให้มหาอํามาตย์ตรี หม่อมเจ้าสกลวรรณากร อธิบดีกรม

            สาธารณสุข เสด็จไปรับมอบเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469
                                                                 280
                   ในปี พ.ศ. 2471 ตั้งโอสถสภาจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสมุหเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราชแจ้งมาว่า

            จังหวัดสุราษฎร์ธานีแต่เดิมมายังไม่มีโอสถสภาเป็นหลักฐานมั่นคง เห็นว่าจวนสมุหเทศาภิบาลซึ่งว่างอยู่เพราะการยุบ
            มณฑลควรจะซ่อมแซมขึ้นเป็นโอสถสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้ชักชวนพ่อค้าประชาชนและคหบดีช่วยกันบริจาค

            ทรัพย์ตามศรัทธา ได้เงินรวมทั้งสิ้น 4,315 บาท 64 สตางค์ จัดการซ่อมแซมแล้วเสร็จและซื้อสิ่งของเครื่องเวชภัณฑ์หมด




                   277  คาร์ล ซี. ซิมเมอร์แมน, การสำรวจเศรษฐกิจในชนบทแห่งสยาม, แปลโดย ซิม วีระไวทยะ, (กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำรา

            มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 2525), หน้า 136-139.
                   278  สจช., รัชกาลที่ 7 กระทรวงมหาดไทย ม-ร. 7 ม/70 – ม.7.1/4 โรงพยาบาลนครสวรรค์ (6 - 13 ส.ค. 2469).
                   279  สจช., รัชกาลที่ 7 กระทรวงมหาดไทย มร 7 ม/70 - ม7.1/5 โรงพยาบาลมณฑลปัตตานี (14 - 30 ส.ค. 2469)

                   280  สจช., รัชกาลที่ 7 กระทรวงมหาดไทย มร 7 ม/70 - ม7.1/6 โรงพยาบาลจังหวัดสุพรรณบุรี (13 - 17 ธ.ค. 2469)
                                                           120
   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126