Page 27 - b29255_fulltext
P. 27

ในช่วงทศวรรษ 2460 สิ่งพิมพ์เพื่อสตรีมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น นิตยสารที่เป็นกระบอกเสียงให้กับสตรีใน

               ระยะเวลา 100 ปีระหว่าง พ.ศ.2431 จนถึงปี 2531 เกิดนิตยสารสตรีจ านวนมากถึง 130 ฉบับ   แต่ส าหรับในยุค
               แรกระหว่างพ.ศ. 2431-2475 นั้นเป็นปลุกจิตส านึกให้สตรีใฝ่หาความรู้ ให้ความคิดทันสมัยโน้มน้าวให้สตรีเห็น
               ความส าคัญของการศึกษาและสิทธิสตรี  เนื้อหาเป็นบทกวีและบทร้อยกรอง รวมทั้งบทความร้อยแก้ว เช่น


                       รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย
               ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถานภาพทางกฎหมายของผู้หญิง การวิพากษ์วิจารณ์ระบบผัวเดียวหลายเมียเกิดขึ้นอย่างดุเด็ด

               เผ็ดร้อนในพระราชนิพนธ์เรื่อง “เครื่องหมายแห่งความรุ่งเรือง คือ สภาพแห่งสตรี” ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ
               เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ประกอบกับพระราชจริยวัตรของพระองค์แตกต่างไปจากธรรมเนียมปฏิบัติของบรรพ

               กษัตริย์ และในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 เริ่มมีวารสารเพื่อสตรีไทยเกิดขึ้นหลายฉบับ ได้แก่ นารีเชวง (พ.ศ. 2455) สัตรี
               นิพนธ์ (พ.ศ.2457) สตรีศัพท์ (พ.ศ.2465) นารีศัพท์ (พ.ศ.2465) เป็นต้นสตรีไทย (พ.ศ. 2468-2470) มีค าขวัญ
               ประจ าคือ “ออกเพื่อให้ความสว่างแก่สตรีทั้งปวง”   เป็นกระบอกเสียงให้สตรีและประกาศชัดเจนว่า “จะเปนปาก

               เสียงหูตาของสตรีโดยไม่เลือกชั้นหรือฐานะ” ทั้งในแง่ “สาธารณประโยชน์ของสตรี”และการเมือง (โปลิติก)”
               นอกจากนี้มีข้อเขียนในนิตยสารสตรีไทยกล่าวถึงสถานะของผู้หญิงเป็นมูลฐานของความก้าวหน้า เช่น สตรีไทย

               ฉบับพ.ศ. 2469 กล่าวถึงสถานะสตรีผู้เป็นมารดาของโลก เรื่อง “ลักษณะแห่งมารดาของโลก” โดยครูเผือก เปรียบ
               ผู้หญิงเป็นผู้ให้ก าเนิดมนุษย์ทั้งโลก เป็นผู้อบรมมนุษย์ให้เป็นพลเมืองดีของโลก และผู้หญิงจะเป็นผู้รับภาระนี้ไปไม่

               สิ้นสุด

                       ต่อไปนี้ผู้วิจัยจะขอกล่าวถึงความมีตัวตนหรือสถานภาพของสตรีไทยระหว่างสมัยรัชกาลที่5-7 จากงาน
               ผลงานซึ่งค้นคว้าเรียบเรียงโดยนักวิชาการชาวต่างชาติและชาวไทย ดังนี้


                   2.2 วรรณกรรมที่เป็นงานค้นคว้าทางด้านประวัติศาสตร์ของนักวิชาการต่างชาติ
                                                                                                        26
                       2.2.1 งานค้นคว้าของศาสตราจารย์ หลุยส์ ดูปลาตร์  (Louis Duplatre ) นักกฎหมายชาวฝรั่งเศส   ซึ่ง
               เดินทางเข้ามาใช้ชีวิตในประเทศไทยในระหว่าง พ.ศ. 2467 (ช่วงปลายรัชกาลที่ 6)  เขามีต าแหน่งเป็นผู้อ านวยการ
               แผนกวิชาในสภานิติศึกษา ซึ่งแผนกนี้มีหน้าที่จัดระเบียบและวางหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนกฎหมายใน

               กระทรวงยุติธรรมสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผลงานวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกของเขา ซึ่ง
               เสนอต่อมหาวิทยาลัยเกรอนอบส์ ประเทศฝรั่งเศส เขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อพ.ศ. 2465 สรุปว่า ถ้าไม่นับ
               ระบบผัวเดียวเมียเดียวแล้ว สามารถกล่าวได้ว่า สถานะทางกฎหมายของผู้หญิงไทยในสมัยที่เขาเขียนวิทยานิพนธ์

                                                                                                           27
               นั้น ดีกว่าหญิงอีกหลายประเทศในเอเชีย เช่น จีน หรืออินเดีย และประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาอิสลาม
               และสตรีสยามอยู่ในฐานะที่ดีกว่าสตรีฝรั่งเศสหลายประการ เขาลงความเห็นว่า ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความแตกต่าง

               ด้านสถานภาพของผู้หญิงไทยและผู้หญิงต่างวัฒนธรรมน่าจะมาจากอิทธิพลทางพุทธศาสนา ดูปลาตร์ศึกษา




                       26
                             หลุยส์ ดูปลาตร์ แปลโดย ไพโรจน์ กัมพูสิริ (2550)  สถานะของหญิงมีสามีในประเทศสยาม กรุงเทพฯ : ศูนย์หนังสือ
               มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หน้า (ก) –(ค) .
                       27  อ้างแล้ว หน้าค าน า หน้า (ง) และหน้า 4-5.


                                                             26
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32