Page 26 - b29255_fulltext
P. 26
ปัญหาข้อ 1 นั้นในประเทศที่เจริญแล้วเห็นจะไม่มีทีเดียว ในเมืองไทยแต่ก่อนมีคนส่วนมากเห็นว่าผู้หญิงไม่
ควรจะเรียนหนังสือ แต่เดี๋ยวนี้ความเห็นเช่นนี้เกือบจะไม่มีเลยแล้ว เหตุที่ไม่อยากให้เด็กผู้หญิงเรียน
หนังสือนั้น ก็เพราะกลัวจะเลี้ยงและควบคุมยาก คนที่ได้เล่าเรียนรู้เหตุการณ์ต่างๆ มักจะต้องการใช้
ความรู้และความคิดของตน ถ้าท าไม่ได้ตามความประสงค์ก็เกิดความไม่พอใจขึ้น และบางคนก็อวดดีจนท า
23
ให้บิดามารดาได้ความร าคาญ…”
จากกระแสรับสั่งของกรมหมื่นชัยนาทนเรนทร (พระอิสริยยศในสมัยรัชกาลที่ 6) ที่กล่าวข้างต้นท า
ให้เราเห็นสภาพปัญหาของการศึกษาของสตรีที่ด้อยกว่าบุรุษในสมัยนั้นอย่างชัดเจน อย่างไรดี ยังมีข้อความ
สนับสนุนว่า “สัตรีสยามเดินสู่ความศิวิไลย” แล้ว ดังนี้
“ เมื่อแรกเริ่มเดิมทีแต่ครั้งโบราณ พวกสัตรีสยามก็เหมือนกับตุ๊กกระตาตั้งไว้ในตู้เช่นนั้น หูตามืดเต็มที จะ
ไปไหนก็ไม่ได้ ถูกกักขังอย่างแน่นหนา ในที่สุดคนด าก็ต้องขาวเพราะไม่ได้ถูกแสงแดดเลย หนังสือหนังหาก็ไม่ได้
เรียน ผู้ใหญ่ท่านกลัวว่ารู้ไปแล้วจะไปมีหนังสือหนังหาถึงผู้ชาย ถึงจะแต่งงานกับชายใดก็เป็นไม่ต้องได้รู้จักมักจี่
หรือเคยผูกรักกันเลย เล่นอย่างคลุมถุงชนเช่นนั้น มาสมัยนี้สัตรีเราเจริญมาก ได้ร่ าเรียนวิชาเสมอผู้ชาย โดยมากได้
เอดยูเกด (เล่าเรียน) นับว่าเจริญสู่ความสว่างมากแล้ว เพราะฉะนั้นชาวเราสัตรีควรยินดียิ่งที่จะไม่เป็นตุ่นเป็นเต่า
อีกต่อไป”
24
ปัญหาประเด็นค าว่า “อ าแดง”ใช้เรียกสตรีคู่กับค าว่า “นาย” ของบุรุษ ซึ่งในสัตรีนิพนธ์กล่าวว่าสตรี
ทั้งหลายพากันรังเกียจไม่ยอมใช้กันเลย “สัตรีบางท่านเมื่อถูกผู้ใดเรียกร้องว่า “อ าแดง” เมื่อประกาศให้ใช้กฎหมาย
ลักษณะหมิ่นประมาทใหม่ๆได้มีคดีฟ้องร้องกันขึ้นณโรงศาล โดยหาว่าเรียกภรรยาข้าราชการสัญญาบัตรผู้หนึ่งว่า
อ าแดง เป็นค าหมิ่นประมาท แต่ในที่สุดศาลก็ฎีกาพิพากษาว่า ค าอ าแดงไม่เป็นค าหมิ่นประมาทตามกฎหมาย จึง
25
ให้ยกฎีกาเสีย คดีนี้ได้เกิดขึ้นที่เมืองนครราชสีมา”
คณะสัตรีนิพนธ์ได้เสนอค าว่า “นาริย” แทนค าว่า “อ าแดง” แล้วกล่าวเพิ่มเติมว่า “การที่ดิฉันกล้าส าแดง
ความเห็นอันเป็นปัญหานี้เพราะมีเจตนาดีและจะยอมเปลี่ยนความคิดเห็น หากมีท่านผู้ใดแนะน าให้ใช้ค าอื่นแทน
อ าแดง จนกว่าจะมีค าซึ่งดีกว่าค าว่า “นาริย”
จนกระทั่งอีก 3 ปีต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงประกาศ “พระราชกฤษฎีกาให้ใช้ค าน าหน้านามสัตรี ลง
วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 ก าหนดให้หญิงที่มีสามีแล้วใช้ค าน าหน้าชื่อว่า “นาง” ส่วนหญิงที่ยังไม่มีสามีให้ใช้
ค าน าหน้าชื่อว่า “นางสาว” จึงไม่มีค าว่า “อ าแดง” น าหน้าชื่ออีกต่อไป
23 สัตรีนิพนธ์, หน้า 153.
24 เรื่องเดียวกัน, หน้า 23.
25
เรื่องเดียวกัน, หน้า 100.
25