Page 23 - b29255_fulltext
P. 23

นิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (2396-2453) ปีที่พระราชนิพนธ์คือ พ.ศ.2428 เนื้อหาของ

               โคลงพระราชนิพนธ์มีดังนี้

                       “ เป็นหญิง สัตย์ซื่อด้วย สวามี สิ่งขัดแคลงราคี ห่อนข้อง…….”

                       ส่วนพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงสดุดีสตรีไทยนักรบ คือ ท้าวเทพกษัตรีและ

               ท้าวศรีสุนทร ในหนังสือนารีเรืองนาม ดังนี้

                       “เกิดเป็นไทชายหญิงไม่นิ่งขลาด แสนสมัครรักชาติศาสนา


                       กตัญญูสู้ตายถวายชีวา             ต่อเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินสิ้นทุกคน

                       ยามสบายปล่อยชายเป็นทหาร    ครั้นเกิดการศึกเสือเมื่อขัดสน


                       พวกผู้หญิงใช่จะทิ้งนิ่งอับจน       ออกต่างขวนขวายช่วยม้วยไม่กลัว

                       เปลก็ไกวดาบก็แกว่งแข็งหรือไม่”


                       ส่วนสตรีที่มีความสามารถ ท่านอื่น อาทิ ท้าวสุรนารี (ย่าโม) นางนพมาศ พระราชินีวิกตอเรีย นางสาวฟลอ
               เรนซ์ ไนติงเกล นางวิสาขา และพระมัทรี เป็นต้น ก็ได้รับการยกย่องสรรเสริญเชิดชูจากงานเขียนของเจ้าพระยา
               ธรรมศักดิ์มนตรี พระศรีสุนทรโวหาร พระยาอุปกิตศิลปสารด้วย


                       หนังสือนารีเรืองนามแบ่งสตรีออกเป็น 3 กลุ่ม คือ สตรีไทย สตรีตะวันตก และสตรีในวรรณคดี  หนังสือ
               เล่มนี้จึงนับเป็นผลผลิตของชนชั้นน าสยามที่มีความปรารถนาให้สตรีและบุรุษ “อยู่เย็นเป็นสุข” ท่ามกลางการ

               เปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมที่ส่งผลให้ประชาชนพลเมืองสยามต้องปรับตัวและอยู่ร่วมกันและอุทิศตนเพื่อ
               ประโยชน์สุขของบ้านเมืองท่ามกลางกระแสจักรวรรดินิยมตะวันตกที่แผ่เข้ามาในสังคมไทย

                       แนวคิดสตรีนิยมช่วงแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบกับความเจริญ

               ทางเทคโนโลยีการพิมพ์ที่เข้ามาสู่สยามโดยมิชชันนารีชาวตะวันตกได้ท าหน้าที่ท้าทาย “ความรู้เก่า” และ เผยแพร่
               “ความรู้”และข้อคิดเห็นใหม่ หัวข้อที่ปรากฏในหน้าสื่อสิ่งพิมพ์ คือ เรื่องบทบาทสตรีในฐานะเมียและแม่ การศึกษา

               ส าหรับผู้หญิง และปัญหาผัวเดียวหลายเมียเป็นประเด็นส าคัญท่ามกลางแรงกดดันจากตะวันตกและความ
               เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยที่ผลักดันกระแสของวิพากษวิจารณ์ปัญหาเพศสภาพ เพศวิถี และความไม่เท่าเทียมกัน

               ระหว่างชายหญิง หนังสือสตรีเรืองนามจึงเป็นส่วนส าคัญในการสอดแทรกบรรทัดฐานทางสังคม

                       หากมิได้ท างานวิจัยชิ้นนี้อย่างจริงจัง ผู้วิจัยแทบจะไม่เชื่อเลยว่า ในสังคมจารีตก่อนการเปลี่ยนแปลงการ

               ปกครองพ.ศ. 2475 ได้เคยมีมีความพยายามที่จะพัฒนาบทบาทของสตรี ดังปรากฏหลักฐานการตีพิมพ์นิตยสาร
               สตรีไทยเล่มแรก คือ นารีรมย์ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2431 จัดท าโดย กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย และนับตั้งแต่ปีพ.ศ.

               2431-2531 ช่วงเวลา 100 ปี มีนิตยสารสตรีเกิดขึ้นมากมายถึง 130 ฉบับ  ดังจะเห็นว่าภาพของความเป็นผู้หญิง
               สมัยใหม่มีความสืบเนื่องตลอดมา โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 6 ปรากฏการณ์ที่โดดเด่นว่า ในนิตยสารกึ่ง




                                                             22
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28