Page 21 - b29255_fulltext
P. 21

บทที่ 2

                              ทบทวนวรรณกรรมที่อธิบายสถานภาพของสตรีไทยก่อนสมัยรัชกาลที่ 7





               2.1 ปรากฎการณ์บ่มเพาะและผลักดันต่อการเลื่อนสถานภาพสตรีไทย


                       ก่อนจะกล่าวถึงวรรณกรรมที่อธิบายเกี่ยวกับสถานภาพของสตรีไทยระหว่างสมัยรัชกาลที่7 ผู้วิจัยใคร่จะ
               ล าดับให้เห็นสิ่งที่อาจจะเปรียบเสมือนปรากฏการณ์ที่บ่มตัวและพัฒนาขึ้นมาต่อยอดสู่การยกระดับของสถานภาพ

               สตรีในประเทศสยามในเวลาต่อมา กล่าวคือ เอกสารประวัติศาสตร์จ านวนไม่น้อยระบุว่า ชนชั้นน าไทยและ
               ผู้ปกครองได้จุดประกายให้เห็นความส าคัญของสถานภาพสตรีมาโดยล าดับ ประกายดังกล่าวเริ่มก่อตัวมาตั้งแต่รัช

               สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากกรณีเมื่ออ าแดงเหมือน หญิงสามัญชนถวายฎีการ้องทุกข์ต่อ
               พระองค์ท่านเพื่อปฏิเสธประเพณีคลุมถุงชน หรือ การแต่งงานโดยปราศจากการยินยอมพร้อมใจของฝ่ายหญิง
               ฎีกาส าคัญนี้ส่งผลให้มีการประกาศห้ามบังคับซื้อขายบุตรสาวและภรรยา ดังความในพระราชบัญญัติเรื่องผัวขาย

               เมีย บิดามารดาขายบุตร ณ วันเสาร์ เดือน 4 แรม 13 ค่ า จุลศักราช 1229 ปีเถาะนพศก  เหตุแห่งการตรา
               พระราชบัญญัตินี้จึงปรากฏพระราชปรารภอ้างถึงกฎหมายเดิมซึ่งเปรียบเทียบเอาไว้ว่า  “ผู้หญิงเป็นควายผู้ชาย

               เป็นคน”นั้น หาเป็นยุติธรรมไม่ ให้ยกเลิกเสีย นอกจากนี้ รัชกาลที่ 4 ยังทรงเปิดโอกาสให้นางในไม่มีบุตรกับ
               พระองค์เลือกที่จะออกไปใช้ชีวิตอิสระนอกวังได้  ปรากฏการณ์ดังกล่าวถือเป็นรากฐานของกระบวนการสร้างความ

               เป็นอารยะให้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย ผนวกกับการปฏิรูปประเทศทางด้านการศึกษาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ
               พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อันเกิดจากความจ าเป็นในการพัฒนาคนให้มีความรู้ความสามารถเพื่อเข้าสู่

               ระบบการบริหารประเทศสมัยใหม่  การปฏิรูปดังกล่าวจึงเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้รับการศึกษาเป็นครั้งแรก แม้ว่าจะ
               เป็นการเตรียมความพร้อมไปสู่ “การเป็นเมียและแม่ที่ดี”  ดังปรากฏหลักฐานในลายพระหัตถ์ของสมเด็จกรมพระ
               ยาด ารงราชานุภาพประทานแก่หม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล พระธิดาองค์ใหญ่ของพระองค์ โดยทรงบรรยายถึง

               ลักษณะการอบรมสั่งสอนเด็กในรั้วในวังและสิ่งส าคัญที่สตรีในวังต้องเรียนรู้ คือ การบ้านการเรือนอันมีความ
               ละเอียดอ่อนและเน้นความประณีตบรรจงมากกว่าสตรีสามัญ ดังนี้


                       “ ในเบื้องต้นฝึกหัดกิริยามารยาททั้งกิริยาวาจา และให้รู้จักสัมมาคารวะก่อนแล้วให้เรียนหนังสือและการ
               เรือน การฝึกสอนกิริยามารยาทและสัมมาคารวะ โดยจะสอนให้เรียนรู้โดยให้เป็นผู้ถือหีบหมากตามหลังเจ้านาย

               ผู้ใหญ่ไปในที่ต่างๆเพื่อให้เห็นกิริยามารยาทและการเข้าสมาคม ความสามารถทางฝีมือการช่างและการประกอบ
                                                    19
               อาหารนั้นเป็นคุณสมบัติประจ าตัวสตรีไทย”




                       19
                         สมเด็จกรมพระยาด ารงราชานุภาพ, ถึงหญิงใหญ่ (2508 ) พระนคร :ส านักพิมพ์สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย,หน้า 27.

                                                             20
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26