Page 16 - b29255_fulltext
P. 16

ถวายฎีกาว่า อ าแดงป้อมภรรยาของตนมีชู้กับนายราชาอรรถแล้วมาฟ้องขอหย่า คณะลูกขุนได้ตัดสินว่าเป็นกรณี

               หญิงหย่าชายให้หย่าได้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจึงมีพระราชวินิจฉัยให้แก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย
               ขึ้น โดยทรงตั้งคณะราชบัณฑิตย์ขึ้นช าระคดี  นายบุญศรีกล่าวหาว่าคณะลูกขุนตัดสินคดีไม่เป็นธรรม เนื่องจากผัว
               ใหม่ของอ าแดงป้อมเป็นข้าราชส านัก แต่เมื่อสอบสวนแล้วไม่พบว่ามีความผิดเพราะเอกต าราหลวงยืนยันว่าเป็น

               เช่นนั้น รัชกาลที่ 1 จึงทรงเห็นว่าต ารากฎหมายที่หลงเหลือมาจากตอนเสียกรุงศรีอยุธยามีความล้าสมัย ดังนั้นจึง
               ควรมีการแก้ไขปรับปรุงต าราเก่า และโปรดเกล้าฯให้ตั้งคณะกรรมการช าระแก้ไขกฎหมายแล้วประทับตราสามดวง

               ให้เรียกว่า กฎหมายตราสามดวง อันมีตราราชสีห์เป็นเครื่องหมายแทนกระทรวงมหาดไทย ตราคชสีห์เป็น
               เครื่องหมายแทนกระทรวงกลาโหม และตราบัวแก้วเป็นเครื่องหมายแทนกระทรวงต่างประเทศ แล้วให้ใช้กฎหมาย

               ตราสามดวงเป็นต้นฉบับในการตัดสินคดีความ ซึ่งในกฎหมายตราสามดวงนี้ประกอบด้วยกฎหมายลักษณะผัวเมียที่
               ได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาฮินดูอันมีลักษณะถือ”ระบบชายเป็นใหญ่” หรือปิตาธิปไตย (Patriarchy) ซึ่งเป็นระบบ

               สังคมอาศัยที่อ านาจของบิดาเป็นรากฐานของอ านาจเพศชายโดยรวมซึ่งแฝงเร้นอยู่กับการเมือง เศรษฐกิจและ
                                                                                              13
               กฎหมายครอบคลุมไปถึงบทบาท พฤติกรรมและวิธีคิดของผู้คนในสังคมทั้งเพศหญิงและเพศชาย  กฎหมายผัวเมีย
               ฉบับดังกล่าวถือว่า ผู้ชายเป็นใหญ่ในครอบครัว สามารถมีภรรยาได้หลายคน และมีสิทธิเฆี่ยนตีภรรยาได้เพื่อสั่ง

               สอน หากภรรยาคนใดดุด่าสามีต้องเอาข้าวตอกดอกไม้มาขอขมาสามีอีกด้วย เนื่องจากกฎหมายลักษณะดังกล่าว
               ท าให้ผู้หญิงมีความล าบากมาก เพราะบิดามารดาสามารถน าลูกสาวไปขายให้เป็นทาสหรือจ าน าได้และสามีก็

               สามารถน าภรรยาไปขายหรือจ าน าได้เช่นกัน ในกฎหมายลักษณะกู้หนี้ถ้าหากพ่อแม่น าลูกมาขายให้เป็นทาสแล้ว
               เจ้าหนี้รักใคร่ได้เสียเป็นภรรยาต้องลดดอกเบี้ยให้ คือ ลูกสาวใช้ได้แค่ขัดดอก แต่ถ้าเจ้าหนี้ได้ทาสเป็นสามีต้องปลด
               หนี้ให้ทั้งต้นและดอก


                       ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เกิดกรณีอ าแดงเหมือนได้ทูลเกล้าฯ
               ถวายฎีกาว่าถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงานกับนายภู อ าแดงเหมือนไม่ยอมนั่งตากยุงตากน้ าค้างที่นอกชานบ้านตลอด

               ทั้งคืน จนรุ่งเช้ากลับบ้านก็ถูกพ่อแม่ทุบตีขู่จะฆ่าหากไม่ยอมแต่งงานกับนายภู ท าให้อ าแดงเหมือนหนีไปหานายริด
               คนรักของตน และให้นายริดแต่งขันหมากมาขอขมาพ่อแม่ แต่เมื่อถึงเวลาจัดขันหมากมาขอขมากลับถูกนายภูแจ้ง

               จับตัว รัชกาลที่ 4 ทรงเห็นว่าถ้าลูกสาวมีอายุที่จะมีสามีนั้น การแต่งงานต้องเป็นไปตามสมัครใจทั้งของชายและ
                                                                               14
               หญิง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯประกาศพระราชบัญญัติลักพา พ.ศ. 2408  โดยทรงสั่งห้ามพ่อแม่ขายลูก และ
               ทรงยกเลิกประเพณีคลุมถุงชน อีกกรณีหนึ่งคือ อ าแดงจั่นได้ทูลเกล้าถวายฎีกาว่าถูกนายเอี่ยม สามีลักเอาชื่อตนไป
               ขายโดยที่อ าแดงจั่นไม่รู้เรื่องด้วย รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชด าริว่า “กฎหมายนี้พิเคราะห์ดูเหมือนผู้หญิงเป็นควาย









                       13  เสนาะ เจริญพร (2548) “ผู้หญิงกับสังคมในวรรณกรรมไทยยุคฟองสบู่” ศิลปวัฒนธรรมฉบับพิเศษ
               กรุงเทพฯ : มติชน หน้า 298-299.
                       14  จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, รวมพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง
               ประชุมประกาศรัชกาลที่ 4 , หน้า 458-460.


                                                             15
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21