Page 22 - b29255_fulltext
P. 22

ส่วนสถานภาพของสตรีสามัญ จากการบันทึกของคาร์ล บอค (Carl Bock) ลงในหนังสือของเขาเกี่ยวกับ

               ชีวิตคนไทยทางภาคเหนือในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แสดงให้เห็นการใช้แรงงานของสตรี
               ชนบทอย่างเด่นชัด ดังนี้

                       “ พวกผู้หญิงเป็นฝ่ายท างานหนักต่างๆ ที่ผู้คนในแถบนี้จะต้องกระท ากัน เช่น ปลูกข้าว เกี่ยวข้าว นวดข้าว

               ต าข้าว...เรื่องนี้เป็นข้อหนึ่งในบรรดาการงานเพียงสองสามอย่างที่ผู้หญิงกระท าได้เท่าเทียมผู้ชาย...ในระหว่างที่
               ผู้หญิงท างานเหล่านี้ หรือท างานอื่นที่คล้ายคลึงกัน เช่น ตกปลา ทอผ้า หรือเย็บเสื้อผ้า พวกผู้ชายก็ต้อนวัวต้อน

                                                                                   20
               ควายและช้างเข้าป่าเป็นครั้งคราว เพื่อตัดไม้ขุดหน่อไม้ หรือเกี่ยวหญ้ามุงหลังคา...”
                       ส าหรับสังคมในเมืองหลวงสถานภาพสตรีมีลักษณะเฉพาะ แต่อย่างไรก็ดีสมาชิกของสังคมมิได้จ ากัดอยู่แต่

               เฉพาะในแวดวงพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้นจะมีข้าราชบริพารและครอบครัวของขุนนางใหญ่น้อยอีกด้วย การ
               ด ารงชีวิตของสตรีที่มาจากครอบครัวชาวเมืองที่อาจไม่มีอากสเข้าไปสัมพันธ์กับพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุ

               วงศ์ และขุนนางจึงมีความคล้ายคลึงกับชาวชนบท ดังจะเห็นจากข้อความที่สังฆราชปัลเลอกัวซ์ ( Mgr. Pallegoix)
               บรรยายการท างานของสตรี ซึ่งเขาพบเห็นมาในเมืองหลวงช่วงต้นรัตนโกสินทร์ว่า

                       “... เด็กสาว...ท าครัวและต าน้ าพริก...ท าขนม มวนบุหรี่และมวนพลู...ผู้หญิงไปหาฟืน เก็บผักและผลไม้

               ตักน้ าต าข้าว และช่วยมารดาในกิจการบ้านเรือน...หญิงชาวบ้านเป็นคนแข็งงาน นางช่วยบิดามารดาท านาท าสวน
                                                                          21
               และท ามาค้าขายโดยเรือล าเล็กๆซึ่งนางพายได้อย่างคล่องแคล่วมาก...”

                       เมื่อกล่าวถึงสตรีไทยในส่วนต่างๆของสังคมทั้งในเมืองหลวงและชนบทมาโดยสังเขปแล้ว ท าให้เห็นชัดเจน
               ว่า กิจการงานของสตรีมีความแตกต่างกันระหว่างสตรีที่อยู่ในครอบครัวเกษตรกรรมและสตรีที่อยู่ในครอบครัว
               ข้าราชการย่อมเข้าใจถึงความรับผิดชอบที่มีต่อครอบครัวของสตรี แม้ว่าสตรีจะมีสถานภาพด้อยกว่าบุรุษเป็นอัน

               มาก แต่สตรีก็มีอ านาจในทางเศรษฐกิจไม่น้อย กล่าวคือมีบทบาทในการควบคุมการใช้จ่ายของครอบครัวและสภาพ
               ทางเศรษฐกิจที่ต้องใช้แรงงานร่วมกับบุรุษ ช่วยกันหาเลี้ยงปากท้องของครอบครัวมาแต่อดีตแล้ว ส่วนครอบครัว

               ข้าราชการ ในสมัยก่อนอาชีพรับราชการเป็นอาชีพหลักที่เปิดโอกาสให้แก่เพศชายโดยเฉพาะ ถ้าสตรีมิได้อยู่ใน
               พระบรมมหาราชวัง ซึ่งจะท าหน้าที่รับใช้และจะคอยหาโอกาสแต่งงานกับขุนนางข้าราชการและใช้แรงงานของตน

               จัดการภารกิจงานบ้านการเรือนและคอยปรนนิบัติสามีเท่านั้น

                       ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีการริเริ่มยกระดับสถานภาพสตรี และน าความเป็น

               “หญิง” มาใช้เป็นเครื่องมือส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์และกระชับอ านาจทางการเมือง โดยการตีพิมพ์และเผยแพร่
               หนังสือนารีเรืองนาม   อันเป็นหนังสือรวบรวมพระราชนิพนธ์ พระนิพนธ์ และผลงานของกวีหลายท่านที่แต่งขึ้น

               เพื่อสดุดีสตรีและสอนแนวทางการด าเนินชีวิตแก่บุรุษและสตรี หนังสือเล่มนี้น าเรื่องด้วยโคลงสุภาษิตพระราช



                         คาร์ล บอค, สมัยพระปิยะมหำรำช. แปลจาก Temple and Elephant,แปลโดย เสถียร พันธรังสี และอัมพร จุฬานนท์
                       20
               (2505) พระนคร : โรงพิมพ์เฟื่องอักษร, หน้า 431-433.
                       21
                         สังฆราช ปัลเลอกัวซ์. เล่ำเรื่องกรุงสยำม. แปลโดย สันต์ ท. โกมลบุตร (2506) พระนคร : ก้าวหน้า , 207-208.

                                                             21
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27