Page 32 - b29255_fulltext
P. 32
การศึกษาประวัติศาสตร์สตรีไทยในช่วงดังกล่าว ได้แบ่งสถานภาพสตรีออกเป็น 4 สถานะ คือ ลูก เมีย แม่
และพลเมืองของราชอาณาจักร โดยอัญชลี สุสายัณห์ได้ใช้หลักพระพุทธศาสนาเข้ามาวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ก าหนด
สถานภาพของสตรีชนชั้นน า การใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงโครงสร้างหน้าที่ท าให้เป็นการโต้แย้งข้อสรุปเบื้องต้นของ
การศึกษาผู้หญิงตามแนวคิดมาร์กซิสม์ ที่เคยเสนอว่า ภาพรวมของสถานภาพและอ านาจของผู้หญิงไทยนั้นต่ าต้อย
และถูกกดขี่จากเพศชาย ซึ่งมีอ านาจทางเศรษฐกิจเหนือกว่า แต่งานศึกษาเชิงโครงสร้างหน้าที่ของอาจารย์อัญชลี
ได้ชี้ให้เห็นว่า สถานภาพของผู้หญิงไทยก่อนการรับวัฒนธรรมตะวันตก มีหลากหลายมิติ ขึ้นอยู่กับสถานภาพที่
ด ารงอยู่ เช่น สถานภาพ “ลูก” นั้นเกือบไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศ เนื่องจากลูกสาวและลูกชายค่อนข้างจะมี
สถานภาพเท่าเทียมกัน เช่นเดียวกันกับสถานภาพ “แม่” ก็มีสิทธิและอ านาจในตัวลูกเสมอกับพ่อในทางกฎหมาย
เสมอกับพ่อ สถานภาพเดียวที่จะด้อยกว่าชายในยุคต้นรัตนโกสินทร์ คือ สถานภาพความเป็น “ภรรยา” เนื่องจาก
กฎหมายก าหนดให้สถานะของผู้หญิงที่แต่งงานแล้วให้เป็นเพียงทรัพย์สินของสามี ภาพลักษณ์ของการเป็น
33
ภรรยาที่ดีตามกฎหมาย คือ หญิงนั้นต้องมีสามีเพียงคนเดียว การคบชู้สู่ชายถือเป็นความผิดต้องได้รับโทษ อย่างไร
ก็ตาม หญิงชาวบ้านผู้เป็นภรรยานั้นมีบทบาททางด้านเศรษฐกิจมีส่วนในการหาเลี้ยงครอบครัวมีจึงสิทธิมากกว่า
หญิงชนชั้นสูงที่ต้องพึ่งพาสามี ต้องยอมรับสภาพความเสียเปรียบ เช่น ยินยอมให้สามีมีภรรยาหลายคน สถานะ
ของภรรยาก็จึงมีความลดหลั่นกันไป เอกสารในแต่ละประเภทที่เกี่ยวข้องจะให้ข้อมูลเรื่องผู้หญิงแตกต่างกันออกไป
เช่น กฎหมายบ่งบอกสถานภาพ สิทธิและหน้าที่ของผู้หญิงในสังคมไทย และสะท้อนบางแง่มุมของปัญหาที่เกิดขึ้น
เกี่ยวกับผู้หญิง ส าหรับภาพของผู้หญิงในราชส านักมักจะปรากฏอยู่ในพระราชพงศาวดารและพระราชหัตถเลขา
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงสามัญชนจะมีบ้างต่อเมื่อเป็นส่วนประกอบของเหตุการณ์เหล่านั้นในฐานะราษฎรที่ต้องพึ่ง
บุญบารมีของพระเจ้าแผ่นดิน ส่วนเอกสารจดหมายเหตุของชาวต่างชาติ และวรรณกรรมนั้นมีความหลากหลาย
เป็นการมองผ่านทัศนะของผู้บันทึกเอกสารนั้น หรือผู้ประพันธ์วรรณกรรมนั้น การท าความเข้าใจเรื่องผู้หญิงจึง
34
ไม่สามารถใช้หลักฐานประเภทเดียวได้ แต่ต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือข้อเท็จจริงจากหลักฐานประเภทอื่นด้วย
2.2.3 วิทยานิพนธ์ เรื่อง “สิทธิและหน้าที่สตรีตามกฎหมายไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ ของ ล าพรรณ น่วม
35
บุญลือ ศึกษาถึงบทบาทและพัฒนาการของสตรีที่ถูกก าหนดไว้ในกฎหมายสมัยรัตนโกสินทร์ พบว่าการ
เปลี่ยนแปลงสิทธิสตรีตามกฎหมายมีความเสมอภาคมากขึ้นเมื่อประกาศใช้พระราชบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่ง
และพาณิชย์ว่าด้วยครอบครัวและมรดก พ.ศ. 2478 ท าให้ภรรยามีส่วนแบ่งในทรัพย์สินเพิ่มขึ้น และเป็นครั้งแรกที่
กฎหมายประกาศให้ชายแต่งงานมีภรรยาได้คนเดียว
33 อัญชลี สุสายัณห์. (2545) ,หน้า 52.
34 เรื่องเดิม,หน้า 51.
35 ล าพรรณ น่วมบุญลือ. (2519) สิทธิและหน้าที่ของสตรีตามกฎหมายไทยในสมัยรัตนโกสินทร์. วิทยานิพนธ์ปริญญา
มหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
31