Page 35 - b29255_fulltext
P. 35
บทที่ 3
ลักษณะทั่วไปของวรรณกรรมในสมัยรัชกาลที่ 7
ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า
เจ้าอยู่หัว ระหว่างพ.ศ. 2468-2475 นั้น วรรณกรรมร่วมรัชสมัยก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากการน าเสนอด้วยร้อย
กรองมาเป็นร้อยแก้วอย่างโดดเด่นมาก สังคมไทยในสมัยนั้นประสบกับสภาวะวิกฤตทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม
การเมืองและวัฒนธรรม อิทธิพลของวรรณกรรมจากต่างประเทศจึงส่งผลอย่างมีนัยส าคัญให้เกิดเปลี่ยนแปลงการ
ปกครอง พ.ศ. 2475 ท าให้มีการสร้างสรรค์งานวรรณกรรมอย่างหลากหลาย ทั้งเรื่องสั้นและนวนิยาย ซึ่งผู้วิจัยจะ
ได้พรรณนาให้เห็นโดยล าดับต่อไป
3.1 กรอบแนวคิดของการวิจัย
การศึกษาเชิงประวัติศาสตร์จากหลักฐานสื่อสิ่งพิมพ์อันเป็นเอกสารชั้นต้นในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นแหล่ง
ทรัพยากรเชิงประวัติศาสตร์สังคมร่วมสมัยที่น่าศึกษา ค้นคว้าและวิจัยเป็นอย่างยิ่ง ความตื่นตัวที่มีต่อระบอบ
ประชาธิปไตยของปัญญาชนสยาม ท าให้ผู้วิจัยได้ค้นพบการปฏิสัมพันธ์อย่างมีชีวิตชีวาของกลุ่มบุคคลร่วมสมัยที่ได้
แลกเปลี่ยน ถกเถียง โต้แย้งและขับเคลื่อนโลดแล่นเชิงความคิด อันแสดงถึงระดับสติปัญญาของทั้งผู้เขียนและ
ผู้อ่านบนหนังสือพิมพ์แนวเรียกร้องประชาธิปไตย ที่แสดงให้เห็นต้นเค้าของการแบ่งขั้วความคิดทางการเมืองอย่าง
ชัดเจน ท าให้ผู้วิจัยมองเห็นความโดดเด่นตื่นตัวต่อการให้ความส าคัญแก่สถานภาพของสตรีในสมัยรัชกาลที่ 7 ซึ่ง
ถือเป็นยุคแรกของการปลุกส านึกให้สตรีเห็นความส าคัญของการศึกษาหาความรู้และการเรียกร้องสิทธิของสตรี ดัง
จะเห็นได้จากที่มีการออกนิตยสารสตรีมากถึง 18 ฉบับ (พ.ศ. 2431-2475) โดยในช่วงแรกผู้จัดท านิตยสารสตรี
มักจะเป็นผู้ชาย และนิยมน าเสนอบทประพันธ์ด้วยร้อยกรองหรือบทกวี ดังที่มีการเผยแพร่ตีพิมพ์อยู่ในหนังสือพิมพ์
กึ่งนิตยสาร นารีรมย์ บ ารุงนารี กุลสัตรี สตรีนิพนธ์ สตรีศัพท์ หญิงสาว สตรีไทย สยามยุพดี และนารีนาถ เป็นต้น
บรรณาธิการของสตรีศัพท์ กล่าวไว้ในค าน าว่า “เป็นเป็นเสียงให้ผู้รับทุกข์ สตรีที่ได้รับทุกข์หรือมีความเดือกร้อน
จากบุรุษแจ้งมายังเรา โดยเฉพาะคอลัมน์‘สภาพสตรีไทย’ในหนังสือพิมพ์ ‘หญิงสาว’ (The Young woman
Daily News ) ( พ.ศ. 2469-2471) มีปณิธานว่า “ออกเพื่อความสว่างและผดุงเกียรติของสตรี” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
นิตยสารรายสัปดาห์ ‘สตรีไทย’ (ออกระหว่าง พ.ศ.2468-2470) มีปณิธานบนปกคล้ายๆกันว่า “ออกเพื่อให้ความ
สว่างแก่สตรีทั้งปวง” และประกาศชัดเจนว่าจะเป็นปากเสียงหูตาของสตรีโดยไม่เลือกชั้นวรรณะโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ได้สื่อสารกับผู้อ่านอย่างภาคภูมิใจว่า คณะผู้จัดท าเป็นผู้หญิงทั้งหมด ทั้งนี้ นางสาวแฉล้ม จีระสุข เจ้าของและ
บรรณาธิการ มีคอลัมน์ ‘ตอบปัญหาของแม่ไสว’ ‘ชตาของหล่อน’ ‘สตรีกับการเมือง’ ไปจนถึงคอลัมน์
34