Page 33 - b29255_fulltext
P. 33

2.2.4  วิทยานิพนธ์ของสุวดี ธนประสิทธิ์พัฒนา เรื่อง “การศึกษาของสตรีไทย ระหว่าง พ.ศ.
                           36
               2411-2475”  ชี้ให้เห็นถึงพัฒนาการของการศึกษาแบบจารีตของสตรีไทยที่ถูกก าหนดด้วยค่านิยม และความ
               คาดหวังจากสถานภาพทางสังคมตามหลักพระพุทธศาสนาและกฎหมาย บทบาทการเป็นแม่และภรรยาที่ดี
               การศึกษาของสตรีชาววังเกี่ยวกับการเป็นแม่บ้านแม่เรือนมีศูนย์กลางอยู่ที่ราชส านัก ในขณะที่สตรีชาวบ้านธรรมดา
               สามัญเรียนรู้จากครอบครัว ต่อมาแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงจากสภาพทางเศรษฐกิจและสังคมช่วงต้น
               รัตนโกสินทร์ ราวสมัยรัชกาลที่ 3 ท าให้สตรีชนชั้นน าได้รับการสนับสนุนให้เรียนวิชาหนังสือ และมีบทบาทในราช

               ส านักฐานะเสมียนและครูถวายอักษรแก่เจ้านายรุ่นเยาว์ แต่ค่านิยมยังคงเน้นความเป็นแม่บ้านแม่เรือน
                       2.2.5  หนังสือของภาวิณี บุนนาค เรื่อง “รักนวลสงวนสิทธิ” หรือ ชื่อเดิมในวิทยานิพนธ์เรื่อง
               “ผู้หญิงในกระบวนการยุติธรรมในสังคมไทย รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึง พ.ศ. 2478 :

               ศึกษาจากคดีความและฎีกา” ซึ่งเป็นวิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์
               มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2554 รางวัลวิทยานิพนธ์ดีมาก เนื้อหาส าคัญเล่าถึงเรื่องราวของกลุ่มสตรีที่มีชีวิต
               โลดแล่นในสังคมไทยแต่ปรากฏน้อยมากในหน้าประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา การศึกษาของภาวิณีจึงเปิดเผยเรื่องราว

               ชีวิตของสตรีที่ปรากฎในคดีความและฎีกา ทั้งสาเหตุและปัญหาในกระบวนการยุติธรรม และการต่อสู้ดิ้นรนของ
               สิทธิสตรีในสังคมไทย งานชิ้นเป็นการศึกษาผู้หญิงในกระบวนการยุติธรรมในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านของสังคมไทย

               ไปสู่ความทันสมัย การที่ผู้หญิงต้องเข้าไปต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมจึงเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความ
               ทันสมัยทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ที่ท าให้ผู้หญิงเกิดส านึกในความเป็นปัจเจกชน


                       งานค้นคว้าดังกล่าวข้างต้นท าให้มองเห็นสถานภาพของผู้หญิงในอดีตเด่นชัดมากขึ้น ส่วนในด้านชีวิตที่
               โลดแล่นเคลื่อนไหวในสมัยรัชกาลที่ 7 นั้น เอกสารประวัติศาสตร์ร่วมสมัยได้สะท้อนภาพการก้าวออกไปเป็นผู้หญิง
               ยุคใหม่อย่างไม่ยอมเหลียวหลัง โดยเฉพาะเมื่อมีการรวมกลุ่มของสตรีที่ได้ชื่อว่า “เป็นผู้มีการศึกษา” ซึ่งได้ใช้สื่อ
               สิ่งพิมพ์และวรรณกรรมเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้หญิงในยุคสมัยของตน จึงอาจจะกล่าวได้ว่า ในสมัยรัชกาล

               ที่ 7 ได้ปรากฏความก้าวหน้าด้านสถานภาพเชิงสติปัญญาที่น่าสนใจของนักเขียนสตรี ที่ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้อง
               สิทธิและความเสมอภาคในสังคมผ่านวรรณกรรมบนหน้าหนังสือพิมพ์อย่างคึกคัก ส่งผลให้เกิดการสร้างสรรค์งาน
               ประพันธ์ทั้งประเภทร้อยแก้วและร้อยกรองของนักเขียนหญิงหรือเป็นปากเสียงแทนผู้หญิงอย่างกว้างขวาง
                       2.2.6 งานค้นคว้าของรองศาสตราจารย์ ดร.ตรีศิลป์ บุญขจร ซึ่งได้อธิบายถึงพัฒนาการของนวนิยายไทย

               ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงก่อนพ.ศ. 2470 ในงานวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท เรื่อง นวนิยายกับสังคมไทย (พ.ศ. 2475-

               2500)      ได้กล่าวถึงพัฒนาการของวรรณกรรมก่อนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า  เป็นระยะ
               เริ่มต้นที่ไทยรับรูปแบบวรรณกรรมประเภทนวนิยายแปลเข้ามาจากต่างประเทศ  โดยมีนักเรียนไทยที่ไปศึกษาต่อ

               ต่างประเทศน าเข้ามาเผยแพร่  การรับอิทธิพลจากต่างประเทศเข้ามาจึงเป็นการแปลมาโดยตรง  หลังจากนั้นเริ่มมี
               การดัดแปลงจากต้นฉบับเดิม  โดยที่นักเขียนนวนิยายอาจบอกแหล่งที่มาหรือไม่บอกแหล่งที่มาว่ามีการดัดแปลงมา
               จากนวนิยายเรื่องใด  นับว่าระยะนี้เป็นการน าวรรณกรรมรูปแบบใหม่  จนกระทั่งในระยะที่สองที่คนไทยเริ่มคุ้นเคย




                       36  สุวดี ธนประสิทธิ์พัฒนา. (2527) การศึกษาของสตรีไทย พ.ศ. 2411-2475. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต
               สาขาวิชาประวัติศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.



                                                             32
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38