Page 36 - b29255_fulltext
P. 36

วิพากษ์วิจารณ์เสียดสีสังคม มีปกิณกคดีเกี่ยวกับผู้หญิงเสียดสีผู้ชายให้ความรู้ด้านกฎหมายแก่ผู้หญิง อธิบาย

               กฎหมายผัวเมียโฆษณาสินค้าส าหรับผู้หญิงและเด็ก เช่นเดียวกับนิตยสารกึ่งหนังสือพิมพ์ ‘สยามยุพดี’ (พ.ศ.2471)
               เสนอข่าวที่เกี่ยวกับผู้หญิง เพื่อป้องกันเกียรติยศผู้หญิง ช่วยเหลือเพื่อนผู้หญิงในด้านอาชีพ ความรู้ การเรือนการ
                                                38
               ครัว ความสวยความงาม การเมืองซึ่ง มีคอลัมน์ ‘สตรีกับการเมือง’ และเป็นปากเป็นเสียงให้กับผู้หญิง การ
               เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเสรีภาพของราษฎรผู้หญิงจึงแยกไม่ออกจาก ‘ความเป็น
               แม่บ้านแม่เรือน’ เหมือนกับที่ นิตยสาร ‘สุภาพนารี’ ฉบับปฐมฤกษ์ปี 2473 ที่ไม่เพียงเน้นย้ าถึง ‘ความเป็นแม่บ้าน

               แม่เรือน’ ก าหนดให้เป็นหน้าที่ของผู้หญิงที่ต้องเป็นแม่บ้านดูแลครัวเรือน และแม่ของมนุษย์ ควบคุมคนรับใช้อยู่
               ภายใต้การดูแลควบคุมจัดการ เหมือนกับแม่บ้านชนชั้นกลางและชนชั้นสูงยุควิคตอเรียน เหมือนนิตยสารผู้หญิง

               อื่นๆ ยังมีทั้งบทความรู้รอบตัว บทสัมภาษณ์บุคคล ซึ่งในช่วงปี 2474 ก็เพิ่มคอลัมน์ ‘สตรีกับกฎหมาย’ อีกด้วย
               นิตยสารเหล่านี้มีความมุ่งหมายเป็นอย่างยิ่งที่จะรื้อโครงสร้างปิตาธิปไตยและสร้างความเท่าเทียมทางเพศระหว่าง

               ผัวเมีย เช่น นิตยสารแม่บ้านแม่เรือน นารีนาถ ฉบับวันที่ 12 มกราคม พ.ศ 2474 นักเขียนนามปากกาว่า “ป.จ”
               ได้เขียนเรื่อง เราเรียกคู่ครองของเราว่าอย่างไรดี? ที่เสนอว่า เราควรเรียก “คู่สามีและภรรยา” แทนเรียก “คุณพี่
               กับน้อง”, “ป๋ากับหนู” , “แด็ดดี้กับเบบี๋” หรือชื่อเจ้าตัวหรือยศศักดิ์ เช่น “คุณหญิงกับเจ้าคุณ” เพราะคู่สามี

               ภรรยาย่อมตรงตามความจริงและเหมาะสมกับสถานะ เช่นเดียวกับลูกเรียกพ่อแม่ว่า “คุณพ่อและคุณแม่”

                       เป็นที่น่าเสียดายว่า เอกสารดังกล่าวอยู่ในสภาพช ารุดจึงไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาจากหลักฐานดังกล่าวได้

               โดยตรง แม้จะมีการท าส าเนาเพื่อการศึกษาค้นคว้าบนแผ่นไมโครฟิล์มไว้แล้ว แต่เนื่องด้วยมาตรการป้องกันกระ
               แพร่กระจายของเชื้อโรคไวรัสโควิด19 ท าให้ผู้วิจัยไม่สะดวกที่จะเดินทางไปเก็บข้อมูลจากหอสมุดแห่งชาติ เหตุนี้

               ผู้วิจัยได้ก าหนดขอบเขตของการศึกษาโดยเน้นเฉพาะหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการสะท้อนให้เห็นสถานภาพของสตรี
               ร่วมสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจากกรณีศึกษาวรรณกรรมของนักเขียน 3 ท่าน ซึ่งได้สร้างสรรค์
                                                                          39
               ผลงานขึ้นมาตั้งแต่พ.ศ. 2472  อันถือเป็นจุดเริ่มต้นของนวนิยายไทย  ได้แก่ ม.จ. อากาศด าเกิง ในนิยายเรื่อง
               ละครแห่งชีวิต ศรีบูรพา ในนิยายเรื่อง สงครามชีวิต และดอกไม้สด ในนิยายเรื่อง ศัตรูของเจ้าหล่อน

               3.2 ประกายแห่งการตื่นตัวและเติบโตของวงการวรรณกรรม


                       ส าหรับสภาพการณ์ทั่วไปในแวดวงวรรณกรรมสมัยรัชกาลที่7 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปีพ.ศ. 2472นั้น ได้
               เกิดกลุ่มนักเขียนรุ่นใหม่ คือ นักเขียนคณะสุภาพบุรุษที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์เผยแพร่ผลงานสะท้อนเนื้อหาความคิด

               ความเชื่อ และอุดมการณ์ซึ่งใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยยุคนั้น พวกเขาเป็นกลุ่มนักเขียนซึ่งนัก

               ประพันธ์รุ่นหลังต่างยกย่องว่าเป็นส่วนหนึ่งของหมุดหมายส าคัญเชิงอุดมการณ์ประชาธิปไตยของวงการวรรณกรรม
               ไทย การถือก าเนิดของนิตยสารสุภาพบุรุษรายปักษ์ระหว่างพ.ศ. 2472 -2473 เป็นภาพสะท้อนค่านิยมแห่งของ

               ความเป็นสมัยใหม่ในวรรณกรรมราษฎร  ลักษณะเด่นของวรรณกรรมราษฎรที่กล่าวถึงนี้ คือ เป็นการรวมตัวกัน
               ของคนรุ่นหนุ่มสาวอายุราว 20 กว่าๆ อาทิ นายกุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือศรีบูรพา บรรณาธิการอายุ 24 ปี นาย


                       38  ป.จ., “เราควรเรียกคู่ครองของเราว่าอย่างไรดี?” นารีนาถ 2,4 ( 12 มกราคม 2474) หน้า 3-6.
                         วิภา เสนานาญ กงกะนันทน์. ก ำเนิดนวนิยำยในประเทศไทย (2540) กรุงเทพฯ : ส านักพิมพ์ดอกหญ้า
                       39

                                                             35
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41