Page 95 - 23464_Full text
P. 95
94
อันดับ 3 และอันดับรองลงมาทั้งหมดเป็นเพียงพรรคขนาดเล็กที่ไม่มีอ านาจในการก าหนดนโยบายหรือ
ก าหนดทิศทางการเมืองของประเทศ
ความเปลี่ยนแปลงของระบบพรรคการเมืองไทยเกิดขึ้นอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2562
ที่เปลี่ยนจากระบบผสมบัตร 2 ใบไปเป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสมที่มีบัตรใบเดียว ผลการเลือกตั้ง
ปรากฏว่ามีพรรคการเมืองได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สภาถึง 27 พรรค โดยจ านวนพรรคที่มากสูงที่สุดเป็น
ประวัติศาสตร์นี้เป็นผลโดยตรงจากระบบเลือกตั้งที่ความตั้งใจของผู้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ต้องการให้
ระบบพรรคการเมืองของไทยมีลักษณะแบบพรรคเด่นพรรคเดียว และต้องการให้เกิดความเป็นสัดส่วน
ระหว่างคะแนนกับที่นั่ง (ดังค าที่ใช้ในเอกสารของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่ว่า “ทุกคะแนนที่
ประชาชนลงเลือกตั้งจะไม่ถูกทิ้ง” ซึ่งสื่อมวลชนได้น าไปใช้ขยายความต่อในภาษาเข้าใจง่ายว่า
95
“คะแนนไม่ตกน้ า”) จึงไม่มีการก าหนดเพดานขั้นต่ าของสัดส่วนคะแนนที่พรรคการเมืองจะต้อง
ได้รับเพื่อเข้าสู่สภา และเปลี่ยนจากระบบผสมแบบคู่ขนานที่มีแนวโน้มในการท าให้เกิดพรรคการเมือง
ขนาดใหญ่มาเป็นระบบเลือกตั้งที่มีการออกแบบมาเพื่อท าให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอ โดยใช้
คะแนนจากเขตเลือกตั้งมาก าหนดที่นั่งทั้งหมดของพรรคและค านวณที่นั่งให้กับระบบบัญชีรายชื่อด้วย
ท าให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่มีที่นั่งลดลง นอกจากตัวระบบเลือกตั้งแล้ว สูตรที่เลือกมาใช้ค านวณ
คะแนนของคณะกรรมการการเลือกตั้งก็มีผลด้วยเช่นกันในการท าให้พรรคการเมืองขนาดเล็กที่มี
เศษเหลือจากการค านวณสามารถเข้าสู่สภาได้ ท าให้มีพรรคการเมืองขนาดเล็กที่มี ส.ส. เพียงคนเดียว
96
ถึง 12 พรรค
การเลือกตั้งปี 2562 ภายใต้ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมที่ท าให้มีพรรคการเมือง
จ านวนมาก นอกจากน าไปสู่ปัญหาของการมีรัฐบาลผสมที่เต็มไปด้วยการต่อรองอ านาจและ
ผลประโยชน์แล้ว ยังท าให้ระบบพรรคการเมืองกลับไปสู่สภาพก่อนปฏิรูปการเมืองในปี 2540 คือ
ระบบพรรคการเมืองหลายพรรคที่กระจัดกระจาย โดยค่าจ านวนพรรคการเมืองที่มีนัยส าคัญเพิ่ม
กลับมาอยู่ที่ 5.64 (ดูตารางที่ 12) ซึ่งมี 5 พรรคการเมืองที่มีที่นั่งในสัดส่วนที่มากจนมีความส าคัญ
ในการจัดตั้งรัฐบาลและก าหนดทิศทางในสภาได้ แต่มีพรรคอีกถึง 21 พรรคที่มีที่นั่งในหลักสิบและ
ต่ ากว่าสิบอย่างกระจัดกระจายโดยไม่ได้สะท้อนทางเลือกเชิงนโยบาย และไม่ได้เป็นตัวแทนของ
กลุ่มผลประโยชน์หรือกลุ่มอัตลักษณ์ใดอย่างชัดเจน พรรคการเมืองที่มีขนาดเล็กเกินไปคือมี ส.ส.
เพียง 1 คน นอกจากไม่สามารถผลักดันนโยบายได้แล้ว ยังไม่สามารถริเริ่มน าเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่
สภาได้ด้วย และพฤติกรรมของพรรคเล็กที่ปรากฏในสภาช่วงปี 2562-2566 พบว่ามีการใช้ที่นั่งของ
95 ดูเอกสารของ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ, ระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการเลือกสมาชิก
วุฒิสภาใหม่ (กรุงเทพฯ: ส านักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, 2560); “‘มีชัย’ แจงเหตุผล 7 ข้อ ย้ าถึงวิธีคิดระบบ
เลือกตั้งแบบใหม่,” กรุงเทพธุรกิจ, 2 พ.ย. 2558
https://www.bangkokbiznews.com/politics/672540
96 ดูข้อถกเถียงเกี่ยวกับสูตรค านวณนี้ และทางเลือกของการค านวณแบบอื่นที่จะท าให้จ านวนพรรคที่ได้รับการ
จัดสรรที่นั่งในสภาน้อยลงกว่าสูตรค านวณของคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ใน ปริญญา เทวานฤมิตรกุล, “ค านวณ
ส.ส. บัญชีรายชื่อต้องใช้สูตรไหน พรป. เลือกตั้ง มาตรา 128 ขัด รธน. อย่างไร?” the Standard, 30 สิงหาคม
2562 https://thestandard.co/thailand-election-2019-formula/; ““สมชัย” โต้ สูตรค านวณ กกต. ชี้ชัดต้อง
ยึด ม.91(4) มี 14 พรรคได้ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่ใช่ 25 พรรค,” มติชน, 30 สิงหาคม 2562; พรรณรัตน์ ดิษฐ์เจริญ, “ระบบ
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบผสม ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560,”
วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2562.