Page 97 - 23464_Full text
P. 97

96



                   ที่นั่งเหนือกว่าพรรคอันดับสองอย่างประชาธิปัตย์ค่อนข้างมาก ท าให้พรรคการเมืองในขั้วของอดีต
                   นายกทักษิณ ชินวัตร ได้เป็นแกนน าจัดตั้งรัฐบาลโดยรวมพรรคขนาดเล็กเข้ามาร่วมรัฐบาลผสม

                   (ยกเว้นการเลือกตั้งปี 2548 ที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้) โดยพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรค
                   แกนน ามีอ านาจก าหนดการจัดสรรต าแหน่งในคณะรัฐมนตรีและก าหนดนโยบายของรัฐบาลได้
                   อย่างเต็มที่ เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือเป็นพรรคขนาดเล็กที่ไม่มีความส าคัญในการตัดสินผล
                   การเลือกตั้ง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคแกนน าฝ่ายค้านที่มีขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ทิศทาง

                   และพลวัตของความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงปี 2544-2557 จึงถูกก าหนดจากการขับเคี่ยวทาง
                   การเมือง แย่งชิงความนิยม และประชันขันแข่งทางนโยบายระหว่างสองพรรคใหญ่ดังกล่าวเป็นส าคัญ
                   ประชาชน ซึ่งส่งผลต่อสภาวะแบ่งแยกแตกขั้วของการเมืองที่มีลักษณะการเมืองสองขั้วขนานไปกับ
                                            97
                   ระบบพรรคการเมืองสองพรรค


                     ตารางที่ 15: สัดส่วนที่นั่งสองพรรคใหญ่ในรัฐสภาระหว่างการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544-2566


                        การเลือกตั้ง         จ านวนที่นั่งสองพรรคใหญ่รวมกัน              ร้อยละ
                                                                                       ที่นั่งในสภา

                          2544          376 (248 + 128) (ไทยรักไทย + ประชาธิปัตย์)       75.20

                          2548           473 (377 + 96) (ไทยรักไทย + ประชาธิปัตย์)       94.60

                          2550         398 (233 + 165) (พลังประชาชน + ประชาธิปัตย์)      82.91


                          2554           424 (265 + 159) (เพื่อไทย + ประชาธิปัตย์)       84.80

                          2562           252 (136 + 116) (เพื่อไทย + พลังประชารัฐ)       50.40

                          2566             292 (151 + 141) (ก้าวไกล + เพื่อไทย)          58.40

                         ที่มา: ค านวณจากผลการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544-2562


                          ในขณะที่การเลือกตั้งปี 2566 ที่นั่งของพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยรวมกันคิดเป็นร้อยละ 58.4
                   ซึ่งมากกว่าสัดส่วนที่นั่งของเพื่อไทยและพลังประชารัฐในการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง

                   ร้อยละ 50.4 ของสภา (ดูตารางที่ 15) แต่เมื่อย้อนกลับไปเปรียบเทียบกับช่วงปี 2544-2554 ก็จะ
                   พบว่าระบบพรรคการเมืองไทยหลังการเลือกตั้ง 2566 มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปจากระบบสองพรรค



                   97  Prajak Kongkirati, “From Illiberal Democracy to Military Authoritarianism: Intra-Elite Struggle and Mass-
                   Based Conflict in Deeply Polarized Thailand,” The ANNALS of the American Academy of Political and
                   Social Science, 681: 1 (2019): 24-40. ส าหรับกรอบทฤษฎีเรื่องความขัดแย้งแบ่งขั้วกับบทบาทของพรรคการเมือง
                   และระบบเลือกตั้ง โปรดดู Jennifer McCoy and Murat Somer, “Toward a Theory of Pernicious
                   Polarization and How it Harms  Democracies: Comparative Evidence and Possible Remedies,” The
                   ANNALS of the American Academy of Political and Social Science, 681: 1 (2019): 234-271; Stephan
                   Haggard  and  Robert  Kaufman,  Backsliding:   Democratic  Regress  in  the  Contemporary  World
                   (Cambridge University Press, 2021).
   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102