Page 98 - 23464_Full text
P. 98

97



                   ใหญ่ครอบง าดังที่ปรากฏในช่วงความขัดแย้งเสื้อสี ในการแข่งขันเลือกตั้งปี 2566 ประชาชนผู้มีสิทธิ
                   เลือกตั้งมีทางเลือกที่หลากหลาย แม้ว่าบรรยากาศของการหาเสียงทางการเมืองจะมีบรรยากาศ

                   ของการแบ่งขั้วอยู่ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเดิมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม ซึ่งสื่อมวลชนและ
                   นักสังเกตการณ์ทางการเมืองจ านวนหนึ่งเรียกพรรคแนวร่วมฝ่ายรัฐบาลเดิม ที่ประกอบด้วยพรรค
                   พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ (ซึ่งตั้งขึ้นใหม่ก่อนการเลือกตั้ง 2566 ไม่นานโดยมี พล.อ. ประยุทธ์
                   จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกฯ หลักของพรรค) ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ ว่าเป็นพรรคแนว

                   “อนุรักษ์นิยม” และเรียกพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านเดิมที่น าโดยเพื่อไทย ก้าวไกล ประชาชาติ ว่า
                                                       98
                   พรรคฝั่ง “เสรีนิยม” หรือ “ประชาธิปไตย”
                          พัฒนาการของระบบพรรคการเมืองที่น่าสนใจและส าคัญในการเลือกตั้งปี 2566 คือ ในแต่ละ
                   ขั้วเองก็มีพรรคการเมืองหลากหลายพรรคให้เลือก และแม้แต่พรรคการเมืองที่ถูกจัดอยู่ในขั้วเดียว
                   กันเองก็มีชุดนโยบายและแนวคิดอุดมการณ์ที่ไม่เหมือนกัน น าไปสู่การแข่งขันเพื่อแย่งชิงฐานคะแนน

                   เสียงในกลุ่มก้อนเดียวกันอย่างเข้มข้นดุเดือดด้วย ทั้งการแข่งขันระหว่างพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทย
                                                                                                     99
                   และการขับเคี่ยวกันระหว่างพรรคพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์
                   ปรากฏการณ์เช่นนี้สะท้อนพลวัตที่ดีของสังคมการเมืองประชาธิปไตยที่มีความแตกต่างหลากหลาย

                   ของทางเลือกและชุดอุดมการณ์มิได้ถูกผูกขาดโดยพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ประชาชนมี
                   ทางเลือกมากขึ้น และการเลือกตั้งมีการแข่งขันมากขึ้น ต่างจากช่วงวิกฤตเสื้อสีที่ประชาชนส่วนใหญ่
                   ถูกบีบให้เลือกระหว่างพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หากไม่ชอบพรรค ก. ก็ต้องหันไป
                   สนับสนุนพรรค ข. ด้วยความจ าใจเพราะไม่มีตัวเลือกอื่น หรือหากไม่ชอบแนวทางทางของพรรค ข ก็
                   ไม่มีหนทางอื่นนอกจากเลือกพรรค ก (หรืองดออกเสียง) เพราะไม่มีพรรคการเมืองตัวเลือกใหม่ๆ ให้

                   เลือกเช่นกัน ซึ่งสภาวะเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในการเมืองเท่านั้นแต่เกิดขึ้นในหลายประเทศ เรียกว่าเป็น
                   การแบ่งข้างเชิงลบ (negative partisanship) คือเลือกสนับสนุนพรรคการเมืองหนึ่งอาจจะไม่ใช่
                   เพราะชอบพรรคการเมืองนั้นอย่างแท้จริง แต่เพราะรังเกียจหรือไม่ชอบอีกพรรคการเมืองหนึ่งมากกว่า

                   การเมืองกลายเป็นการแบ่งข้างแบบขาวกับด า มิตรและศัตรู ไม่เหลือพื้นที่ของความหลากหลาย
                   ที่ควรจะมีอุดมการณ์และนโยบายได้หลายเฉดความคิด
                                                                100
                          ประเด็นส าคัญที่ต้องอภิปรายให้ชัดเจนคือ ระบบพรรคการเมืองแบบหลายพรรค
                   ในการเลือกตั้ง 2566 นั้นไม่ใช่การย้อนกลับไปสู่ระบบหลายพรรคแบบเดียวกับการเมืองไทยยุค
                   พ.ศ. 2519-2539 เพราะในยุคประชาธิปไตยครึ่งใบและยุคก่อนปฏิรูปการเมือง แม้ว่าการเมืองไทย

                   จะเป็นระบบหลายพรรค แต่เป็นหลายพรรคที่แทบไม่มีความแตกต่างด้านนโยบายหรืออุดมการณ์ทาง
                   การเมือง ทว่าในปัจจุบันพรรคการเมืองไทยมีทั้งความหลากหลายและความแตกต่างในเชิงนโยบาย


                   98  “บทวิเคราะห์: โพลชี้ขั้วเสรีนิยมทิ้งห่างขั้วอนุรักษ์ฯ ‘เศรษฐา’ แซง ‘ประยุทธ์’,” ไทยพีบีเอส, 18 เม.ย. 2566,
                   https://www.thaipbs.or.th/news/content/326743; “เจาะเกมเลือกตั้ง 2566 : ก้าวไกล-รทสช.เปิดศึกสุดโต่ง
                   สงครามเสรีนิยม-อนุรักษ์นิยม,”   ผู้จัดการออนไลน์, 13 พ.ค. 2566, https://mgronline.com/
                   politics/detail/9660000044411
                   99  “เลือกตั้ง2566 ศึกขั้วเดียวกัน เสรีนิยมแข่งกัน อนุรักษนิยมสู้กัน,”   the Standard, 5 พ.ค. 2566,
                   https://thestandard.co/election-2566-same-pole-battle/; “3 พรรคอนุรักษ์นิยมรุมทึ้งภาคใต้ ตัวเร่งส่ง
                   ‘ลุง’ กลับบ้าน?” ส านักข่าวอิศรา, 2 พ.ค. 2566, https://www.isranews.org/article/contact-isra.html.
                   100  ดูสภาพปัญหาเช่นนี้ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกใน Ezra Klein, Why We’re Polarized (Profile Books,
                   2020); Steven Levitsky and Daniel Ziblatt, How Democracies Die (New York: Crown, 2018).
   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103