Page 119 - 23464_Full text
P. 119

118



                          พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยเป็นพรรคการเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศระหว่างการเลือกตั้ง
                   ปี 2544 ถึง 2554 เป็นผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านการรับรองของสภาให้เปลี่ยนกลับไปใช้ระบบ

                   บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งเป็นจุดยืนเดียวกับพรรคเพื่อไทย แต่ในขั้นตอนการพิจารณาร่างกฎหมาย
                   เลือกตั้งประกอบรัฐธรรมนูญ กลับเกิดความขัดแย้งในพรรคเป็น 2 แนวทาง ระหว่างกลุ่มที่สนับสนุน
                   สูตรหาร 100 กับสูตรหาร 500 โดยที่กลุ่มที่สนับสนุนสูตรหาร 500 มีจ านวนมากกว่า ความขัดแย้ง
                   ในกรณีการแก้ไขระบบเลือกตั้งสะท้อนปัญหาการขาดเอกภาพภายในของพรรคประชาธิปัตย์

                   ในยุคปัจจุบัน

                          พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคแกนน ารัฐบาลสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับไปใช้
                   ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบแบบรัฐธรรมนูญปี 2540 อันเป็นจุดยืนที่สอดคล้องกับพรรคเพื่อไทยและ
                   พรรคประชาธิปัตย์ แต่ในเวลาต่อมาเมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้งประกอบ
                   รัฐธรรมนูญ เกิดความขัดแย้งในพรรคเช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนสูตร

                   หาร 100 กับสูตรหาร 500 โดยกลุ่มที่สนับสนุนสูตรหาร 100 (ภายใต้การน าของ พล.อ. ประวิตร
                   วงศ์สุวรรณ) มีจ านวนมากกว่า และกลุ่มดังกล่าวได้ใช้ยุทธศาสตร์แบบเดียวกับพรรคเพื่อไทยคือ
                   นัดหมายให้ ส.ส. ในกลุ่มขาดประชุมสภาในวาระ 3 เพื่อท าให้องค์ประชุมสภาไม่ครบและท าให้สูตร

                   หาร 500 ต้องตกไป
                          พรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแต่เป็นพรรคขนาดกลาง เป็นพรรคที่สงวนท่าทีในช่วง

                   ที่มีข้อเสนอให้เปลี่ยนกลับไปใช้ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบแบบรัฐธรรมนูญปี 2540 โดยภูมิใจไทย
                   มีมติพรรคงดออกเสียง ต่อมาเมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารราร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
                   การเลือกตั้ง ภูมิใจไทยสนับสนุนสูตรหาร 500 ที่เสนอโดยกลุ่ม ส.ส. ที่สังกัดพรรคการเมืองขนาดเล็ก

                          พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่อันดับ 3 ของระบบการเมืองไทย
                   สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับไปใช้ระบบบผสมที่มีบัตร 2 ใบแต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีค านวณที่ยึด

                   ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 โดยเสนอความเห็นว่าระบบบัตร 2 ใบที่ค านวณคะแนนแบบระบบเยอรมนี
                   (MMP) เป็นระบบที่เหมาะสมกว่า จึงประกาศงดออกเสียงในวาระ 3 ส่วนในขั้นตอนการพิจารณา
                   กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ พรรคก้าวไกลสนับสนุนสูตรหาร 100 แต่เสนอรายละเอียดเพิ่มเติม

                   ให้ก าหนดเกณฑ์ขั้นต่ าในการค านวณที่นั่ง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลไม่สนับสนุนสูตรหาร 500
                   ที่เสนอโดยพรรคการเมืองขนาดเล็กเพราะขัดกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านสภาไปแล้ว

                          ส าหรับพรรคการเมืองขนาดเล็กส่วนใหญ่ (น าโดยพรรคเสรีรวมไทยและพรรคพลังธรรมใหม่)
                   มีจุดยืนคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับไปใช้ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบแบบรัฐธรรมนูญปี 2540 และ
                   สนับสนุนสูตรหาร 500 ในขั้นตอนการพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ

                          ส าหรับวุฒิสมาชิก พบว่ามิได้มีจุดยืนที่เป็นเอกภาพในประเด็นเรื่องระบบเลือกตั้ง มีทั้งกลุ่มที่

                   สนับสนุนและคัดค้านกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนระบบเลือกตั้งให้กลับไปใช้บัตร 2 ใบ และ
                   ในช่วงที่มีการถกเพียงเรื่องสูตรหาร 100 และ 500 ในขั้นตอนการพิจารณากฎหมายประกอบ
                   รัฐธรรมนูญ ก็มีทั้งวุฒิสมาชิกที่สนับสนุนสูตรหาร 100 และบางส่วนที่สนับสนุนสูตรหาร 500 สุดท้าย
                   ในการพิจารณาวาระ 3 ซึ่งที่ประชุมรัฐสภาล่มเนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ พบว่ามี ส.ว. จ านวนหนึ่ง

                   ไม่เข้าร่วมประชุมเช่นเดียวกับ ส.ส. พรรคเพื่อไทย และ ส.ส. กลุ่มใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ
   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124