Page 83 - 23154_Fulltext
P. 83
78
3) ทศวรรษ 1990 เป็นความพยายามในการผลักดันประชาธิปไตยที่มีความโปร่งใสจนมีหมุดหมายส าคัญ
คือ การกลับมาใช้รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1972 อีกครั้งและมีการแก้ไขเพิ่มเติม เช่น รัฐบาลรักษาการที่ไม่
ฝักฝ่ายใดหรือ NCGs เพื่อรักษาการช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้หลังการเปลี่ยนผ่านกลับสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง ระบบรัฐสภาของบังกลาเทศเป็นไปโดยมี
ลักษณะส าคัญอย่างน้อย 2 ประการของความสัมพันธ์เชิงอ านาจในระบบรัฐสภา ได้แก่ 1) ระบบรัฐสภายังไม่
สามารถท างานได้ตามอุดมคติของแนวคิดเสรีประชาธิปไตย เนื่องจากพรรคขนาดกลางมีอ านาจต่อรองกับพรรค
ใหญ่ ขณะที่ฝ่ายค้านเองไม่สามารถต่อรองในสภาได้จนต้องหันมาพึ่งพาการเมืองบนท้องถนน ส่งผลให้
ความสัมพันธ์เชิงอ านาจเป็นไปอย่างไม่สมดุล แม้รัฐบาลจะครองเสียงข้างมากแต่ก็ต้องเผชิญกับสภาวะที่สภาไม่
สามารถท างานได้โดยปกติเช่นกัน และ 2) ระบบคณะกรรมาธิการยังขาดความเป็นอิสระจากการครอบง าโดยชน
ชั้นน าจากพรรคการเมืองใหญ่ ท าให้ระบบคณะกรรมาธิการเป็นพื้นที่เพื่อเก็บประสบการณ์ของนักการเมืองใหม่
มากกว่าจะเป็นการต่อรองระหว่างตัวแทนพรรคการเมืองเพื่อท าหน้าที่ติดตามในประเด็นที่แต่ละคนมีความถนัด
ส่วนตัวให้เกิดเป็นประโยชน์ต่อภารกิจของรัฐสภา
ประเทศระบอบเผด็จการ
3.9 กัมพูชา
พัฒนาการทางประวัติศาสตร์
กัมพูชาเป็นกรณีศึกษาของประเทศที่พัฒนาการการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในระยะเวลาไม่นาน แม้ว่าจะ
ได้รับเอกราชจากประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่ ค.ศ. 1953 แต่กัมพูชาก็ต้องเผชิญกับวิกฤตทางการเมืองมาตลอดไม่ว่าจะ
เป็นการถูกรุกรานจากเวียดนามเหนือในช่วงสงครามเวียดนาม ค.ศ. 1965 หรือเหตุการณ์คณะรัฐประหารจากกลุ่ม
สาธารณรัฐเขมร (Khmer Republic) ในช่วง ค.ศ. 1970 ที่จบลงด้วยชัยชนะจากฝ่ายปฏิกิริยาคือกลุ่มเขมรแดงที่
น าโดยพลเอกพล พตภายใต้ความร่วมมือจากสถาบันกษัตริย์และเวียดนามเหนือ ซึ่งกลุ่มเขมรแดงก็ปกครองมาได้
จนสิ้นสุดใน ค.ศ. 1979 และหลังจากนั้นเกิดเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างสองขั้ว ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายที่
น าโดยนายกรัฐมนตรีฮุน เซนภายใต้การสนับสนุนทางการทหารและการเงินโดยเวียดนามและโซเวียต อย่างไรก็
ตามหลังสิ้นสุดสงครามเย็นแล้ว สหประชาชาติได้เข้าไปท าการสนับสนุนกัมพูชาให้สามารถเปลี่ยนผ่านสู่
ประชาธิปไตยด้วยการผลักดันขององค์การบริหารชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในกัมพูชา (The United Nations
Transitional Authority in Cambodia: UNTAC) จนน ามาสู่หมุดหมายส าคัญของการความพยายามในการ
เปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยด้วยการจัดให้มีรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1993 และมีการเลือกตั้งสภาแห่งชาติ แต่อย่างไรก็
ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่เพียงพอที่จะท าให้กัมพูชากลายเป็นระบอบประชาธิปไตยตั้งมั่น หากแต่เผด็จการ
กองทัพยังฝังรากลึกขึ้นอีกด้วย

