Page 23 - 23154_Fulltext
P. 23

18


               ชนชั้นน าคือพวกเดียวกัน จึงปฏิเสธว่ารัฐสภาและรัฐบาลมีความแตกต่างกัน หลังจากแนวคิดตัวแบบคอมมูนก็คือ

               แนวคิดโซเวียต ซึ่งรวมตัวแบบคอมมูนและการต่อต้าน สหภาพการค้า (Trade union) เข้าด้วยกัน

                       แนวคิดที่ต่อต้านรูปแบบรัฐสภาเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเชื่อว่ามีพื้นฐานธรรมชาติบางอย่างที่เหนือกว่า
               ทางเลือกของบุคคล ท าให้บุคคลไม่สามารถเป็นตัวแทนของบุคคลอื่น และไม่สามารถอธิบายในรัฐสภา การ

               ตัดสินใจจะเกิดขึ้นบนประสบการณ์เฉพาะตัวของตัวแทน

                       เป็นที่สังเกตของผู้วิจัยว่า ทั้งสี่แนวคิดข้างต้นไม่ได้เป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากเป็น

               แนวคิดที่ปฏิเสธหลักการการเป็นผู้แทน และมีแนวโน้มที่จะน าไปสู่ลัทธิเผด็จการ หรือระบอบอ านาจนิยม ทั้งใน
               รูปแบบของเผด็จการของกลุ่มทุน (corporatists) และเผด็จการของชนชั้นแรงงาน (commune/soviet) ใน

               ปัจจุบันนี้แนวคิดสุดโต่งที่ต่อต้านระบบรัฐสภาอ่อนแรงลงอย่างมากในยุโรปแม้ว่ายัง มีการถกเถียงกันอยู่เรื่องของ
               อ านาจและการปฏิบัติของรัฐสภาแต่การปรับระบบเลือกตั้ง วินัยของพรรคการเมืองในรัฐสภาและรูปแบบอื่นๆของ
               ความเป็นตัวแทน การควบคุมตัวแทนในรูปแบบใหม่ๆ การจับฉลาก หรือการเปิดเวทีถกแถลงให้กับประชาชน


                       แนวคิดอีกกลุ่มหนึ่งเป็นแนวคิดที่ได้มีการปรับใช้และสอดคล้องกับหลักการปฏิบัติของระบอบ
               ประชาธิปไตยตัวแทนมากกว่า ได้แก่


                       แนวคิดที่ห้า  คือ แนวคิดที่อยู่ในรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 1789 ซึ่งเป็นแนวคิดที่เชื่อมั่นใน
               หลักการตรวจสอบถ่วงดุล (checks and balance) โดยปฏิเสธหลักการความรับผิดชอบ (responsibility) ของ

               รัฐสภา และอ านาจอธิปไตย (sovereignty) ของรัฐสภา ภายใต้ระบบตรวจสอบถ่วงดุลนั้น สภาคองเกรส
               (congress) ซึ่งเป็นรัฐสภาของระบอบประธานาธิบดี ท าหน้าที่เป็นเพียงแค่ฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ได้ท าหน้าที่ 4 ด้าน
               แบบรัฐสภา ส่วนประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งท าหน้าที่เป็นผู้บริหารสูงสุด (Chief Executive Officer –

               CEO)  และแนวคิดที่หกคือ การมีรัฐสภาควบคู่ไปกับการเมืองทางตรง เช่น ในระบบการเมืองของสวิตเซอร์แลนด์
               เป็นระบบการเมืองที่เชื่อในประชาธิปไตยทางตรงผสมผสานกับประชาธิปไตยแบบตัวแทนซึ่งเริ่มขึ้นมาในยุคกลาง

               ศตวรรษที่ 19 การตัดสินใจที่ส าคัญของรัฐสภาจะถูกยืนยันอีกทีในการลงประชามติ

                       แนวคิดที่ห้าและที่หก สะท้อนว่าการมีรัฐบาลไม่ได้รับผิดชอบต่อรัฐสภาในระบบประธานาธิบดี การ

               เลือกตั้งประธานาธิบดีทางตรงและประชาธิปไตยทางตรง เป็นการปิดกั้นอ านาจอธิปไตยของรัฐสภา และอ านาจ
               สูงสุดของรัฐสภา นอกจากนี้การปฏิรูปรัฐสภาในยุคหลัง ๆ เช่นการก่อก าเนิดของศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นการจ ากัด

               อ านาจของรัฐสภาในการถกแถลง

                       ในภาพรวมแล้ว แนวคิดเหล่านี้ปฏิเสธการตัดสินใจภายใต้ระบบรัฐสภาและสถานภาพของ
               สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะตัวแทน ท าให้รัฐสภาไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างเป็นอิสระ เสรีภาพในการแสดง

               ความคิดเห็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมและอิสระภาพของรัฐสภาท าให้การเป็นตัวแทน (representation
               และ delegation) มีความเชื่อมโยงถึงกันอย่างใกล้ชิด (Palonen, 2016)


                       2.3 ลักษณะพื้นฐานของระบบรัฐสภา
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28