Page 216 - 23154_Fulltext
P. 216
211
ตัวเลข เนื่องจากภายใต้จ านวนสภาผู้แทนราษฎรที่ปรับจ านวนเป็น 500 คน ทว่าตัวแทนแบบแบ่งเขตที่เป็นตัวแทน
จากเขตพื้นที่โดยตรงกลับลดเหลือ 350 คน ขณะที่จ านวนตัวแทนแบบบัญชีรายชื่อเพิ่มเป็น 150 คน แต่เมื่อ
พิจารณามาตรา 85 จะพบว่าอ านาจเสียงของประชาชนที่สะท้อนผ่านบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกลับขาดหายไป
อย่างมีนัยส าคัญ เนื่องจากเป็นบัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียวที่ต้องเลือกตัวแทนแบบเขต และน าเสียงที่ได้ลงให้ตัวแทน
เขตไปค านวณให้ตัวแทนแบบบัญรายชื่อซึ่งเป็นไปตามวรรคสามที่จะมี พรบ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ
เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ตามมาในภายหลัง และหลังจากการเลือกตั้งก็ให้เป็นหน้าที่ของ กกต.
ในการตรวจสอบผลคะแนนเพื่อประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 60 วัน อย่างไรก็ตาม ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ยังคงมีอ านาจได้รับเลือกเป็นประธานรัฐสภาโดยต าแหน่ง ซึ่งเป็นปลักประกันถึงอ านาจในการควบคุมวาระในการ
ประชุมสภาร่วมกับวุฒิสภา
ความเปลี่ยนแปลงที่สองของสภาผู้แทนราษฎรเป็นเรื่องของอ านาจการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ตามที่มาตรา
88 ได้ให้อ านาจพรรคการเมืองเสนอรายชื่อ ดังบัญญัติไว้ว่า
“มาตรา 88 ในการเลือกตั้งทั่วไป ให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแจ้งรายชื่อบุคคลซึ่ง
พรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็น
นายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 รายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง และให้
คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรายชื่อบุคคลดังกล่าวให้ประชาชนทราบ และให้น าความในมาตรา 87
วรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
พรรคการเมืองจะไม่เสนอรายชื่อบุคคลตามวรรคหนึ่งก็ได้”
“มาตรา 89 การเสนอชื่อบุคคลตามมาตรา 88 ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
(1) ต้องมีหนังสือยินยอมของบุคคลซึ่งได้รับการเสนอชื่อ โดยมีรายละเอียดตามที่คณะกรรมการ
การเลือกตั้งก าหนด
(2) ผู้ได้รับการเสนอชื่อต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นรัฐมนตรีตาม
มาตรา 160 และไม่เคยท าหนังสือยินยอมตาม (1) ให้พรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งคราวนั้นการเสนอ
ชื่อบุคคลใดที่มิได้เป็นไปตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น”
หรือก็คือ ความเปลี่ยนแปลงของที่มาของนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 88 และ 89 เป็นผลที่ได้และเสียทั้ง
สองทาง ทางหนึ่งเป็นความยึดโยงกับประชาชนผ่านรายชื่อที่พรรคการเมืองต้องเสนอรายชื่ออย่างโปร่งใสให้รับรู้
โดยทั่วไปตั้งแต่ก่อนปิดรับสมัครเลือกตั้ง ขณะที่อีกทางหนึ่ง มีความพยายามรื้อฟื้นการเมืองแบบเปรมาธิไตยอีก
ครั้งด้วยการเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีคนนอกกลับมาอีกครั้ง รายชื่อที่เสนอนายกรัฐมนตรีจึงอาจถูกใช้เป็นพลังของ
ชนชั้นน าจากกองทัพ ระบบราชการ และเทคโนแครต ที่มาได้ยึดโยงกับประชาชนเลยเสียก็ได้ ขอเพียงมีพรรค
การเมืองที่เป็นตัวแทนของชนชั้นน ากลุ่มนี้เป็นผู้เสนอรายชื่อก็เพียงพอ
ประการที่สองคือ วุฒิสภา จ านวน 200 คน มีวาระคราวละ 5 ปี โดยความเปลี่ยนแปลงส าคัญเรื่องแรก
เป็นเรื่องของที่มาต าแหน่งของวุฒิสภาจากเดิมที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ให้วุฒิสภามาจากการเลือกตั้ง และ