Page 213 - 23154_Fulltext
P. 213
208
จะสะท้อนเจตนารมณ์การปฏิรูปการเมืองอันสะท้อนโดยตรงจากภาคประชาชน เนื่องจาก รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว)
พ.ศ. 2557 ไม่ได้มีความพยายามในการผนวกเอาตัวแทนประชาชนที่เป็นขบวนการทางสังคมที่ต่อสู้กับรัฐ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นปช. ที่เรียกร้องหาประชาธิปไตย หากแต่เป็นเพียงฝ่ายของกองทัพที่ต่อยอดปฏิรูปการเมือง
ตอบสนองกับปรากฎการณ์ความขัดแย้งแบบที่สอง ซึ่งเป็นความไม่เพียงพอขององค์กรอิสระในการต่อต้าน
ประชาธิปไตยเสียงข้างมาก ท าให้ตัวแสดงที่เป็นพันธมิตรกับ คสช. ร่วมกันใช้ระบบรัฐสภาเพื่อปฏิรูปการเมือง
ออกแบบโครงสร้างทางการเมืองแบบใหม่ต่อไปในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560
4.2.20 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
บริบททางการเมือง
หลังจากได้มีการอภิปรายในประเด็นของพลวัตความเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์เชิงอ านาจในระบบ
รัฐสภาที่ก าหนดไว้ผ่านบทบัญญัติรัฐธรรมนูญไทยตั้งแต่ พรบ. ธรรมนูญการปกครองชั่วคราว พ.ศ. 2475 จนถึง
รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ซึ่งตลอดห้วงเวลาประวัติศาสตร์ 82 ปีที่ผ่านมาได้มีการสั่งสมทั้งองค์ความรู้ใน
การปฏิรูปการเมืองให้ตัวแทนของประชาชนมีความสัมพันธ์ในการตอบสนองผลประโยชน์ของประชาชนขึ้นเรื่อยมา
อย่างไรก็ตาม ค าถามที่ตามมาคือ ค าว่า “ปฏิรูปการเมือง” ในทัศนะของประชาชน (ดังเช่นพลังในการขอมีส่วน
ร่วมและขอตรวจสอบการเมืองในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540) ตรงกันกับภาพอุดมคติของ “ปฏิรูปการเมือง” ในทัศนะ
ของชนชั้นน ารัฐราชการ (ดังที่สังเกตได้จากพลังที่สนับสนุนรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) พ.ศ. 2557) หรือไม่ สิ่งที่จะตอบ
ค าถามดังกล่าวได้ก็คือ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่เป็นเครื่องสะท้อนทัศนคติต่อค าว่า “ปฏิรูปการเมือง” ของชนชั้น
น า กองทัพ ข้าราชการระดับสูง และเทคโนแครตอนุรักษ์นิยม ที่สะท้อนออกมาผ่านการออกแบบกลไกใน
รัฐธรรมนูญที่ได้ก ากับให้เกิดความสัมพันธ์เชิงอ านาจต่อระบบรัฐสภาในลักษณะที่เป็นอีกขั้นหนึ่งของข้อสรุปองค์
ความรู้ ณ ปัจจุบันของชนชั้นน าในการออกแบบกลไกการจ ากัดอ านาจของเสียงข้างมากในระบบรัฐสภา โดย
กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่กว่าจะสามารถประกาศใช้ออกมาใช้เป็นรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ก็ผ่านมาทั้ง 5 โรด
แมป และ 2 ร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะอภิปรายต่อไปตามล าดับ
โรดแมปที่หนึ่งของ คสช. เริ่มต้นจากการสัญญาว่าจะใช้เวลา 1 ปี เพื่อแต่งตั้ง สนช. และ กมธ. ยกร่าง
รัฐธรรมนูญภายใน 3 เดือนแรก เพื่อเตรียมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ลุล่วงพร้อมประกาศใช้ และจัดให้มีการ
เลือกตั้งภายในตุลาคม พ.ศ. 2558 โดย สนช. ได้เลือก กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ และให้บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็น
ประธาน กมธ. โดยมีการปรับปรุงโดยเฉพาะหมวด 3 ว่าด้วยนิติธรรมและศาล การตรวจสอบการอ านาจรัฐรวมถึง
ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปรองดอง ลดความเหลื่อมล้ า และเฉพาะกาล แต่ด้วยการที่ร่างรัฐธรรมนูญของบวร
ศักดิ์ไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา 135:105 เสียง ส่งผลให้ กมธ. ชุดบวรศักดิ์พ้นวาระทั้งชุด และตั้ง กมธ. ยก
ร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่ 21 คน ประกอบกับ สปช. ครบวาระต้องพ้นทั้งชุด และแต่งตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป
ประเทศ (สปท.) 200 คนขึ้นมาท าหน้าที่แทน (บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ, 2563: 249-251; ศูนยข้อมูลมติชน, 2559:
326-328)